ผมเคยสัมภาษณ์เศรษฐีพันล้านที่ประสบความสำเร็จจากการสร้างตัวเองมาจากพื้นฐานที่เป็นคนจนมาก่อนหลายคน เคยตั้งคำถามว่า เคยรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจที่เกิดมาจนหรือไม่? 

ส่วนใหญ่ได้คำตอบคล้ายๆกันว่า ตอนเด็กไม่เคยรู้ว่าตัวเองจน คนแถวบ้านมีความเป็นอยู่ในสภาพเดียวกัน แต่พอเริ่มเข้าเรียนในโรงเรียนเลยเริ่มรู้ถึงความแตกต่างได้บ้าง

แม่บ้านที่สำนักงานคนหนึ่งมีลูกเล็กๆอายุประมาณ 4-5 ขวบ ผมเคยเอาช็อกโกแลตที่ซื้อจากดิวตี้ฟรีเวลาเดินทางกลับจากต่างประเทศ ให้ลูกเธอ 2-3 ครั้ง อยากแบ่งปันเล็กๆน้อยๆให้เด็กบ้าง แต่เธอกลับไม่ค่อยชอบที่ผมเอาของให้ลูกเธอกิน ถ้าไม่ได้ฟังเหตุผลก็คงไม่เข้าใจจริงๆ 

เธอบอกว่า ผมเอาช็อกโกแล็ตให้ลูกเธอกิน ลูกชอบมาก เพราะอร่อยมาก แต่มีปัญหาตามมามาก เวลาลูกอยากกินช็อกโกแลตแบบที่เคยกิน เธอก็จะไม่มีปัญญาซื้อให้ เด็กมันร้องไห้งอแงขอสิ่งที่เธอไม่สามารถหามาให้ได้!!

มันจริงอย่างที่แม่บ้านที่สำนักงานบอกจริงๆ เป็นเรื่องที่ไม่เคยคิดถึงมาก่อน!

สินค้าหรือบริการเกือบทุกประเภท มีหลายแบรนด์อยู่ในกลุ่มเดียวกัน บางแบรนด์สร้างแบรนด์ย่อยที่เน้นกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันออกไป 

กลุ่มผู้บริโภค ในทางการตลาดมีการแยกแยะแบบหลักใหญ่ตาม เพศ อายุ ฐานะ การแยกเซ็กเม้นท์ของกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนที่สุดสามารถเห็นได้จากความแตกต่างของฐานะรายได้ 

สินค้าและบริการเกือบทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นของมูลค่าสูงหรือต่ำ มีการแบ่งประเภทเอาไว้ค่อนข้างชัดเจน

การแบ่งกลุ่มสินค้าส่วนใหญ่แบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ Basic, Standard, Premium, Luxury พูดแบบเข้าใจง่ายๆก็คือแบ่งเป็น 4 เกรด

การเดินทางโดยเครื่องบินเป็นตัวอย่างที่เห็นภาพชัดที่สุด

Basic เปรียบได้กับการเลือกเดินทางกับ Low Cost Airline 

Standard เหมือนเดินทางด้วยตั๋ว Economy Class

Premium เทียบได้กับการเดินทางชั้น Business

Luxury เหมือนการเดินทาง First Class

คนมีฐานะดีส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่าและรู้ถึงความแตกต่างของสินค้าแต่ละแบรนด์หรือแต่ละระดับ

ผู้ชำนาญในแต่ละสาขาซึ่งเป็นผู้ใช้สินค้าหรือบริการนั้นบ่อยมากๆจะรู้ดีถึงความแตกต่างของสินค้าแต่ละประเภท ผู้ใช้รายใหม่ที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนต้องการความเห็นจากคนกลุ่มนี้ก่อนตัดสินใจ

ในสมัยก่อน ข้อมูลประสบการณ์ใช้เป็นสิ่งที่หายากมาก ผู้ขายสามารถใช้ความไม่รู้ของผู้ใช้เพื่อทำให้ขายได้ ความพร้อมหรือการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ก่อนเป็นโอกาสการขายที่เหนือกว่า

แต่ยุคนี้มันเปลี่ยนจากสมัยก่อนมาก ผู้ซื้อสมัยนี้ฉลาดซื้อฉลาดใช้เพิ่มขึ้น มีข้อมูลให้ค้นหามากมาย อยากรู้อะไรถามกูเกิล ของมูลค่าไม่กี่บาทหรือหลายหมื่นบาทก็มีข้อมูลประสบการณ์การใช้มาแบ่งปันกัน

นอกจากรู้ว่าของต่างเกรดกันเป็นอย่างไร ยังมีข้อมูลที่ตรวจสอบความแตกต่างของสินค้าหรือบริการที่อยู่ในเกรดเดียวกันด้วย

การแบ่งคลาสของสินค้าและบริการของผู้ใช้แต่ละราย อาจมีความแตกต่างกัน สินค้าบางอย่างที่เราคิดว่าเป็น Premium อาจหมายถึงสินค้า Luxury ของคนหลายคน

เคเอ็ฟซี แม็คโดนัลด์ พิซซ่าฮัท สตาร์บัค อยู่ในประเทศไทยอาจเป็นอาหารที่คนจำนวนมากมองว่าเป็นกลุ่ม Premium แต่ในต่างประเทศหลายที่เป็นแค่ Standard หรือ Basic 

ผมเป็นคนหนึ่งซึ่งเดินทางไปต่างประเทศค่อยข้างบ่อย ปีละประมาณ 7-8 ครั้ง เดินทางด้วย Low Cost Airline หรือ Economy Class เสมอ เห็นราคาตั๋ว Business แล้วตัดใจซื้อไม่ลง ไม่ต้องพูดถึง First Class ไม่มีทางได้ใช้อย่างแน่นอน

เวลาลงเครื่อง สายการบินยอมให้เดินผ่านเขตที่นั่งชั้นธุรกิจบ่อยๆ เริ่มเห็นความแตกต่างเรื่องความสบายของที่นั่งอยู่เหมือนกัน 

ครั้งแรกที่ได้นั่ง Business Class เป็นการเดินทางไกลไปยุโรป ราคาตั๋วแพงกว่า Economy Class ประมาณหนึ่งเท่าตัว แต่ใช้แต้มสะสมไมล์เลยทำให้มีโอกาสนั่งสบายๆแบบชั้นธุรกิจบ้าง

ความแตกต่าง มันมีราคาพรีเมี่ยมที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้น ถ้าเรามีกำลังซื้อไหว มันทำให้ชีวิตสุขสบายขึ้นได้จริง

ก่อนขึ้นเครื่องบินได้สิทธิพิเศษนั่งรอสบายๆในเล้าจ์ชั้นธุรกิจในสนามบิน มีอาหารและเครื่องดื่มดีๆบริการ มีอินเตอร์เน็ตใช้ฟรี เมื่ออยู่บนเครื่อง ช้อนส้อมมีดที่ให้ใช้เป็นโลหะไม่ใช่พลาสติก จะดื่มไวน์หรือเครื่องดื่มอะไรก็มีบริการตลอด นอกจากอาหารที่มาเสริฟถึงที่แล้ว ยังมีอาหารว่างและเครื่องดื่มบริการตลอดการเดินทาง ชาที่เอามาให้ดื่มก็เป็นเกรดแบบ Supreme รสชาติมันดีกว่าชาที่เคยดื่มแบบเทียบกันไม่ได้

ประสบการพรีเมียมแบบชั้นธุรกิจ มันเป็นอะไรที่รู้สึกได้ถึงความแตกต่างมาก และหากผมมีกำลังซื้อมากพอ ก็อยากมีโอกาสเดินทางแบบนี้อีก 

แต่ยังสู้ราคาไม่ไหวจริงๆ ขอเดินทางด้วย Economy Class ไปก่อน รอสะสมแต้มแล้วค่อยอัพเกรดตัวเองเป็นครั้งคราว 

ประสบการณ์ที่ได้ใช้ของดีๆ บางครั้งมันก็สปอยทำให้คนหัวสูงเกินกำลังได้เหมือนกัน!

เมื่อสิบกว่าปีก่อน รปภ ที่สำนักงานเห็นภรรยาผมซื้อรถคันใหม่เป็นรถญี่ปุ่น เลยมาให้คำแนะนำว่าทำไมไม่ซื้อรถบีเอ็ม มันสวยกว่าตั้งเยอะ พอบอกให้ฟังว่ารถบีเอ็ม 1 คัน ซื้อรถโตโยต้าได้ 3 คัน เขาตกใจมาก เพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันมีความแตกต่างมากขนาดนี้

ภรรยาเคยไปโชว์รูมรถบีเอ็ม พนักงานขายเปิดกระโปรงท้ายรถบีเอ็มซีรีย์ 5 ให้ดูภายใน พอดูเสร็จภรรยาผมเอามือจับกระโปรงรถจะช่วยปิดให้ 

เซลล์ขายรถรีบยกมือห้าม “ไม่ต้องครับ... ไม่ต้องครับคุณผู้หญิง เดี๋ยวมันปิดของมันเอง”

ภรรยาบอกว่า “อ๋อเหรอ ของพี่ยังใช้ระบบฟาดปิดอยู่เลย!!!”

เซลล์ขายรถถามว่า “คุณพี่ใช้รถอะไรอยู่ครับ?”

“ใช้แคมรี่ค่ะ ซื้อมาหลายปีแล้ว มันไม่มีระบบนี้ด้วย”

พนักงานขายรถบอกว่า.....
“คุณพี่ใกล้แล้วละ ต่อไปมาซื้อบีเอ็มได้แล้วครับ!”

สินค้ามันมีหลายเกรดจริงๆ 

ยังมีอะไรอีกมากที่เราเอื้อมไม่ถึง แต่บอกภรรยาแล้วว่า ใช้รถคันเก่าไปก่อนแล้วกัน คราวหน้าเปลี่ยนเป็นรถอีวีเลย ยี่ห้อไหนค่อยว่ากันอีกที!

(บทความ : สุทธิชัย ทักษนันต์)

——————————————                                                                            ———————————————

ติมตามข่าวสารการเงิน เศรษฐกิจรอบโลกได้ที่ คลิ๊ก
เข้ากลุ่มนักเทรดใน Facebook คลื๊ก นี้


 

0 Share