จากคนยากจนสู่ตระกูลที่รวยที่สุดในโลก
หากเราพูดถึงครอบครัวที่รวยที่สุดในไทยเราคงจะถึงคิด .... กลุ่ม CP หรือ กลุ่มเสี่ยเจริญ (ขอรั้งความคิดทุกคนไว้แค่นี้)
แต่หากพูดถึงตระกูลที่รวยที่สุดในประวัติศาสตร์โลกเราคงจะหนีไม่พ้นการต้องพูดถึงตระกูลรอธส์ไชลด์ (Rothschilds) ตระกูลที่อาจมีหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอิลลูมินาติ และเป็นตระกูลที่ครั้งหนึ่งรวยขนาดสามารถให้ธนาคารแห่งชาติของประเทศอังกฤษกู้เงินไปทำสงครามได้
ซึ่งโดยปกติแล้ว กลุ่มตระกูลที่จะรวยขนาดนี้ได้ต้องเคยเป็นคนในชนชั้นสูงหรือราชวงศ์มาก่อน แต่ไม่ใช่กับตระกูลนี้ เพราะตระกูลรอธส์ไชลด์เป็นเพียงกลุ่มผู้อพยพชาวยิวที่เข้าไปอาศัยในพื้นที่แออัดในเมืองแฟรงเฟิร์ตประเทศเยอรมนีเท่าน้น
ในสมัยนั้น การจำแนกบ้านแต่ละหลังไม่ได้ใช้เลขที่บ้านเหมือนเราในปัจจุบัน แต่ใช้การปักธงหรือสัญลักษณ์ต่างๆในหน้าบ้าน ซึ่งสัญลักษณ์นี้เองที่เป็นที่มาของชื่อนามสกุล รอธส์ไชลด์ (Rothschilds) เพราะคำว่ารอธส์ไชลด์มีความหมายสื่อถึง โล่สีแดง ที่ตระกูลยิวกลุ่มนี้แขวนเอาไว้หน้าบ้านของพวกเขานั่นเอง
แล้วกลุ่มผู้อพยพยากจนอาศัยอยู่ในพื้นที่แออัดกลายมาเป็นตระกูลที่รวยที่สุดในโลกได้ยังไง?
ตระกูลรอธส์ไชลด์หากินด้วยการทำธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราให้กับพ่อค้าและเหล่าขุนนางที่ทำการค้ากับเมืองอื่น เพราะการแลกเปลี่ยนแต่ละครั้งต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบชนิดเหรียญ ตรวจสอบน้ำหนัก และคำนวนอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งเรื่องเฉพาะทางแบบนี้มักจะตกเป็นงานของชาวยิวซึ่งเก่งมากในเรื่อการคำนวนอยู่แล้ว
แล้วโอกาสใหญ่ก็มาถึงตระกูลรอธส์ไชลด์ ในช่วงศัตวรรษที่ 18 ไมเออร์ อัมส์เชล รอธส์ไชลด์พบโอกาสว่าลูกค้าที่ทำการแลกเปลี่ยนเงินตรากับเขามีความต้องการกู้ยืมเงินเพื่อทำการค้า แต่ศาสนาคริสต์ได้ห้ามศาสนิกชนทำการปล่อยกู้เงิน ทำให้เหล่าขุนนาง และพ่อค้ารายใหญ่ไม่สามารถทำธุรกิจปล่อยกู้ได้
นั่นจึงเป็นโอกาสของตระกูลรอธส์ไชลด์ เพราะพวกเขาคือชาวยิวไม่ใช่ชาวคริสต์ และไมเออร์จึงได้เริ่มทำธุรกิจปล่อยสินเชื่อซึ่งทำให้ตระกูลรอธส์ไชลด์แทบจะเป็น monopoly ในธุรกิจนี้
อาณาจักรรอธส์ไชลด์เติบโตมาเรื่อยๆจนมาเจอวิกฤตใหญ่ ที่อาจทำให้พวกเขาเสียเงินทั้งหมดไปเลย ในช่วงปี 1800 เหตุเพราะสงครามนโปเลียน
นโปเลียนกำลังทำการบุกตีเมืองต่างๆจนแตก ซึ่งรวมถึงเมืองที่ตระกูลรอธส์ไชลด์อาศัยอยู่ด้วย ซึ่งถ้าหากพวกเขาไม่ทำอะไรเลย ทรัพย์สินของพวกเขาทั้งหมดอาจถูกนโปเลียนปล้นไปก็เป็นได้ ด้วยเหตุนี้ไมเออร์จึงได้ส่งลูกชายตัวเอง นาธาน รอธส์ไชลด์ ไปตั้งธนาคารและทำการปล่อยกู้ให้กับพระเจ้าจอร์จที่ 3 แห่งงสหราชอาณาจักร เพื่อทำสงครามกับนโปเลียนเป็นเงินกว่า 9.8ล้านปอนด์ (ประมาณ 30,000ล้านบาทในปัจจุบัน) จนเป็นหนึ่งในสาเหตุที่อังกฤษสามารถชนะสงครามในที่สุด
หลังชนะสงคราม จักรพรรดิฟรันซ์ที่ 1 แห่งออสเตรียได้ทรงแต่งตั้งตระกูลรอธส์ไชลด์ให้เป็นขุนนางในตำแหน่งไฟร์แฮรร์ ตระกูลรอธส์ไชลด์ที่อังกฤษก็ได้เป็นขุนนางเช่นกันในตำแหน่งบารอน
ทำให้ตระกูลรอธส์ไชลด์นอกจากจะมียศถาบรรดาศักดิ์แล้ว พวกเขายังเป็นเจ้าหนี้ของธนาคารแห่งชาติอังกฤษอีกด้วย แน่นอนด้วยเส้นสายและปริมาณเงินหนาขนาดนี้ การแผ่ขยายอำนาจไม่ใช่เรื่องยาก ไมเออร์ อัมส์เชล รอธส์ไชลด์ทำการส่งลูกชายทัง 5 ของตัวเองไปยัง 5 เมืองหลวงใหญ่ของยุโรปเพื่อทำธุรกินธนาคารและปล่อยชินเชื่อได้แก่ ลอนดอน, ปารีส, แฟรงก์เฟิร์ต, เวียนนา และเนเปิลส์
บทวามจาก: มุมคิด
Credit http://www.lagazeta.com.ar/rothschild_nathan.htm
—————————————— ———————————————
ติมตามข่าวสารการเงิน เศรษฐกิจรอบโลกได้ที่ คลิ๊ก
เข้ากลุ่มนักเทรดใน Facebook คลื๊ก นี้