2003 ซาร์ บุกอิรัก , 2020 โคโรน่า บุกอิหร่าน เอาไอซิสใส่อิรัก

“อเมริกา” สังหารนายพลสุโมไลนี่ ของอิหร่าน ทำให้เกิดคำถามว่าแล้วกองกำลังอเมริกาในอิรัก จะเป็นอย่างไรต่อ ?

“อิหร่าน และ กาต้าร์ ค้นพบแหล่งก๊าซใหญ่ที่สุดในโลก South Pars/North Dome Gas-Condensate และวางแผนจะขายให้ยุโรปโดยผ่านการสร้าง “แนวท่อแก๊สอิสลามิก” ผ่านดินแดน อิหร่าน อิรัก ซีเรีย เลบานอน ออกไปทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แล้วไปขายให้ยุโรป

แต่แผนการนี้ของอิหร่าน อิรัก ซีเรีย เลบานอน ถูกขัดขวาง โดยมีการสร้างกลุ่มก่อการร้าย หรือ ทหารรับจ้างไอซิส ไปป่วนในบริเวณดังกล่าว มาตลอดหลายปี นอกจากนั้นคนผิวขาวกลุ่มที่สร้างทหารรับจ้างขึ้นมา ก็ได้ประโยชน์อีกจากสร้างกระแส “อิสลามโมโฟเบีย” ไปทั่วโลกอีก

เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 5 มกราคม 2020 รัฐสภาอิรัก ลงมติให้ “รัฐบาลเชิญให้กองกำลังของต่างชาติ เช่น อเมริกาออกนอกอิรักไป” แต่อเมริกาไม่สนใจ แถมเมื่อตั้งแต่ 3 มกราคม 2020 นายพลใหญ่สุโมไลนี่แห่งอิหร่าน ถูกสุนัขลอบกัดสังหารโหด ทำให้อิรักขาดผู้จะสนับสนุนช่วยเหลือ

ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่า “ผู้ชนะจากการที่อเมริกาสังหารนายพลอิหร่านก็คือไอซิส”

โดย “อเมริกา” ประกาศแบบนักบุญหน้าฉากซาตานหลังเวที ว่าจะคงกองกำลังของตนเพื่อเอาไว้เล่นละครปราบไอซิสต่อไป แบบไม่แคร์สื่อและองค์กรสหประชาชาติเพราะเป็นการผิดกฏหมายระหว่างประเทศในการส่งกองกำลังไปในประเทศอื่น ทั้งๆที่ตอนทรัมป์ก่อนเป็นประธานาธิบดี เคยบอกเองว่า สมัย โอบาม่าและฮิลลารี่ คนทั้งสองเป็นคนทำคลอดให้กำเนิดกลุ่มทหารรับจ้างไอซิสนี้ขึ้นมาเอง

ยิ่งกว่านั้น อเมริกา จะรักษาป้องกันฐานทัพของตนในอิรักจากการโจมตีของอิหร่านอีกด้วย เมื่อไร้ผู้นำที่เข้มแข็งของเพื่อนบ้าน”อิหร่าน” อิรักที่อ่อนแอ ก็ยากที่จะมีพันธมิตรเอามาบีบไล่อเมริกาและสมุนออกจากประเทศของตน และ “ไอซิส” ที่รับจ้างรบแบบนักรบในย่านนี้แต่โบราณ ก็จะมีที่ทำกินต่อไป

สมัยปี 2003 โรคซาร์ เบี่ยงเบนความสนใจของชาวโลกจากการที่อเมริกาบุกอิรักในปีเดียวกัน , ปี 2020 อเมริกาฆ่านายพลอิหร่าน เพื่อจะเอาไอซิสกลับมาบุกอิรักอีกครั้ง โดยปีเดียวกันมีไวรัสโคโลน่า เป็นตัวเบี่ยงเบน ความสนใจของชาวโลกอีกครั้ง


Cr.Jeerachart Jongsomchai

0 Share