'ส่งออก'เจอดีแน่ ปี62บาทแข็งยาว : เอกชนฟันธงส่งออกปี 62 โตถดถอย ขยายตัวได้ 5-7% หรือ ถึงขั้นติดลบ สงครามการค้าปัจจัยเสี่ยงทุบเศรษฐกิจ 2 ตลาดใหญ่สหรัฐฯ-จีนขยายตัวลดลง

จับตา "ทรัมป์" ลุยก๊อก 2 เร่งสงครามค่าเงินกดดอลลาร์อ่อนเพิ่มส่งออกสินค้ามะกัน หอการค้าจี้หาตลาดใหม่ชดเชย

การส่งออกไทยปี 2561 กำลังสู่โค้งสุดท้าย ซึ่งทุกสำนักพยากรณ์ต่างฟันธงว่าปีนี้การส่งออกของไทยจะขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ 9% จาก 8 เดือนแรกปีนี้ยังขยายตัวสูงที่ 10% และยังมีแรงส่งที่ดีถึงเดือนที่เหลือของปีนี้ที่คาดจะวิ่งเข้าป้ายได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ขณะที่สงครามการค้า สหรัฐอเมริกา-จีนที่ทุกฝ่ายกังวลจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยนั้น คาดผลกระทบที่เป็นรูปธรรมชัดเจนจะเกิดขึ้นในปีหน้า

ส่งออกปี62โตถดถอย

นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ในปี 2562 คาดการณ์เบื้องต้นการส่งออกของไทยจะขยายตัวได้ราว 7% จากปีนี้คาดจะขยายตัว 8-9% การส่งออกไทยที่จะขยายตัวลดลงมีปัจจัยสำคัญผลพวงสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนที่ล่าสุดกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ ไอเอ็มเอฟ ได้ออกมาคาดการณ์จะทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง โดยปี 2562 จะขยายตัวได้ที่ 3.7% และจะส่งผลให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจ(จีดีพี)ของ 2 ตลาดใหญ่คือ สหรัฐฯในปีหน้าจะขยายตัวลดลงเหลือ 2.5% และจีนลดลงเหลือ 6.2% และจะกระทบทำให้การค้าโลกหดตัวลง

ขณะเดียวกันกรณีที่สหรัฐฯได้ปรับขึ้นภาษีสินค้าจีน 5,745 รายการ จาก 10% ไปแล้ว และจะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 25% ในวันที่ 1 มกราคม 2562 และสหรัฐฯยังขู่จะขึ้นภาษีสินค้าจีน(รอบที่ 4) อีกมูลค่ากว่า 2.67 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หากเกิดขึ้นจริงในปีหน้าจะยิ่งกระทบทำให้เศรษฐกิจและการค้าโลกชะลอตัวลงอีก

"ปัจจัยเสี่ยงส่งออกไทยปีหน้ายังมีเรื่องสงครามค่าเงิน โดยเวลานี้โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯได้กดดันเฟด(ธนาคารกลางสหรัฐฯ) ไม่ให้ขึ้นดอกเบี้ยเพื่อทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนเพื่อช่วยกระตุ้นการส่งออกของสหรัฐฯให้มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินบาทของไทยและค่าเงินในภูมิภาคแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ และจะกระทบต่อการส่งออกของไทยไปตลาดโลก เรื่องที่ภาครัฐและเอกชนของไทยจะต้องทำคือช่วยกันวิเคราะห์และวางแผนว่าจะใช้วิกฤติสงครามการค้าเป็นโอกาสในการส่งออกไปสหรัฐฯ และจีนเพิ่มขึ้นได้อย่างไร ในส่วนของศูนย์อยู่ระหว่างประเมินสินค้าที่สหรัฐฯขึ้นภาษีสินค้าจีนครั้งล่าสุดกว่า 5,700 รายการว่าตัวไหนเราจะได้หรือเสียอย่างไร"

มองต่างอาจถึงขั้นติดลบ

นายบัณฑูร วงศ์สีลโชติ รองประธานคณะกรรมการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การส่งออกของไทยปี 2562 จะขยายตัวลดลงหรืออาจถึงขั้นติดลบได้ เพราะปีหน้าการนำเข้าสินค้าจากจีนของสหรัฐฯจะลดลงอย่างมากจากกำแพงภาษีสินค้าหลายพันรายการจะปรับเพิ่มขึ้น การลดการนำเข้าสินค้าจีนจะกระทบการส่งออกสินค้าวัตถุดิบจากไทยไปจีนที่เคยนำเข้าไปผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูปเพื่อส่งออกไปสหรัฐฯที่ลดลงด้วย ขณะที่สหรัฐฯในปีหน้ามีแนวโน้มการใช้มาตรการปกป้องผู้ผลิตภายในเพิ่มขึ้น คาดหลังเลือกตั้งกลางเทอมเดือนพฤศจิกายนนี้ ทรัมป์จะประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้ารถยนต์จากทั่วโลกเป็น 25% เพื่อให้สอดรับกับความตกลงใหม่ใน USMCA (นาฟต้าเดิม) ที่ล่าสุดสมาชิกคือสหรัฐฯ เม็กซิโกและแคนาดาได้บรรลุความตกลงใหม่ โดยในสินค้ารถยนต์ที่จะได้รับการ ลดภาษีนำเข้า 0% ระหว่างกันต้อง ใช้ชิ้นส่วนประกอบในกลุ่มเพิ่มเป็น 75% จากเดิม 62.5% ซึ่งจะกระทบ กับการส่งออกรถยนต์ และชิ้นส่วนของไทยไปตลาดนี้ได้

หาตลาดใหม่ชดเชย

นายชัยชาญ เจริญสุข เลขาธิการ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สรท.) กล่าวว่า การส่งออกไทยปี 2562 คาดจะขยายตัวได้ 5-7% ปัจจัยลบจากสงครามการค้า ทำให้เศรษฐกิจ การค้าโลกชะลอตัว รวมถึงผลจากฐานตัวเลขส่งออกในปี 2561 ที่สูง ส่วนปัจจัยบวกยังมีเช่น ตลาดอาเซียนการส่งออกของไทยน่าจะยังขยายตัวเป็นบวก เฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่ม CLMV จะหันมาค้ากันเองภายในกลุ่มมากขึ้น และสินค้าที่เกี่ยวเนื่องจากน้ำมันราคาจะปรับตัวสูงขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก

"ทาง สรท.อยู่ระหว่างเตรียมข้อมูลจากสมาชิกในทุกอุตสาหกรรมว่าสถานการณ์ ณ ปัจจุบันเป็นอย่างไร และทิศทางแนวโน้มการส่งออกปีหน้าจะเป็นอย่างไร ซึ่งจะแถลงให้รับทราบต้นเดือนพฤศจิกายน

ด้านนายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ผลจากสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนที่อาจทำให้การส่งออกของไทยลดลง ผู้ประกอบการควรเร่งปรับทิศทางการส่งออกไปยังตลาดใหม่ๆ ที่มีศักยภาพและเศรษฐกิจยังขยายตัวได้ดีเพิ่มขึ้น เช่น CLMV อินเดีย บังกลาเทศ ตะวันออกกลาง รวมถึงยุโรปตะวันออก ขณะเดียวกันต้องปรับรูปแบบการค้าสู่ระบบอี-คอมเมิร์ซ มากขึ้น และต้องติดตามสหรัฐฯอย่างใกล้ชิดว่าจะมีมาตรการอะไรออกมาอีก เพราะเวลานี้สถาน การณ์เปลี่ยนแปลงเร็วมาก

Source: ฐานเศรษฐกิจ

——————————————                                                                            ———————————————

ติมตามข่าวสารการเงิน เศรษฐกิจรอบโลกได้ที่ คลิ๊ก
เข้ากลุ่มนักเทรดใน Facebook คลื๊ก นี้


 

0 Share