ในปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นใหญ่ ๆ ทั่วโลกบอบช้ำมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงินในปี 2551 ความตึงเครียดทางการค้าที่กำลังคุกรุ่นระหว่างสองเศรษฐกิจใหญ่สุดของโลก ความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย และปัญหาภูมิศาสตร์การเมือง

เช่น ปัญหา Brexit ได้ทุบตลาดการเงินอย่างหนักในปีที่ผ่านมา แต่เนื่องจากปัญหาเหล่านี้ยังไม่ได้รับการแก้ไขในช่วงต้นปี นักลงทุนจึงกังวลว่าตลาดหุ้นอาจจะปรับตัวลงอีกในเดือนที่จะมาถึง

ซีเอ็นบีซีได้รวบรวมข้อมูลจากตลาดหุ้นทั่วโลกและได้จัดอันดับ “ตลาดหุ้นดีสุด” และ “ตลาดหุ้นแย่สุด” ดังต่อไปนี้

“ตลาดหุ้นดีสุด” ปี 2561
1. ยูเครน +80.39%
ตลาดหุ้นยูเครนสามารถปรับตัวขึ้นได้ 80.39% แม้ว่ายูเครนต้องขอความช่วยเหลือจากอียูและนาโต้หลังจากที่รัสเซียยึดเรือของกองทัพเรือ 3 ลำ และลูกเรือ 23 คนเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่องแคบเคิร์ช ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของยูเครนและรัสเซีย ซึ่งเป็นช่องแคบที่แยกทะเลอาซอฟกับทะเลดำ

2. มาซิโดเนีย +30.41%
ดัชนีหุ้นบลูชิพ MBI 10 ของตลาดมาซิโดเนีย (เอ็มเอสอี) ปรับตัวขึ้นเกือบหนึ่งในสามในปี 2561 หลังจากที่รัฐบาลมาซิโดเนียบรรลุข้อตกลงกับกรีซ เพื่อแก้ไขข้อพิพาทเรื่องชื่อประเทศที่ขัดแย้งมายาวนาน ผู้นำมาซิโดเนียยอมเปลี่ยนชื่อเป็น “สาธารณรัฐมาซิโดเนียเหนือ” ในเดือนมิถุนายน ซึ่งช่วยยุติความสับสนกับแคว้นมาซิโดเนียของกรีซได้ อย่างไรก็ดี รัฐสภากรีซและรัฐสภามาซิโดเนียจะต้องรับรองข้อตกลงนี้ด้วย

3. กาตาร์ +20.87%
ตลาดหุ้นกาตาร์ปรับตัวขึ้นมากกว่า 20% เมื่อคิดเป็นเงินดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา แม้ว่าซาอุดีอาระเบียและชาติอาหรับอื่น ๆ ได้ตัดความสัมพันธ์ทางการค้าและการขนส่งกับกาตาร์มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2561 โดยกล่าวหาว่ากาตาร์สนับสนุนการก่อการร้ายและอิหร่าน ขณะเดียวกัน กาตาร์ได้ตัดสินใจถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) อย่างเป็นทางการเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากที่เป็นสมาชิกมานานกว่าครึ่งศตวรรษ การประกาศถอนตัวของกาตาร์มีขึ้นก่อนที่โอเปกจะประชุมเพื่อลดกำลังการผลิตกับพันธมิตรนอกกลุ่มในเดือนธันวาคม

4. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ +11.75%
ADX General Index ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ปรับตัวขึ้นเกือบ 12% ในปีที่ผ่านมา โดยเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมารัฐมนตรีเศรษฐกิจของยูเออี คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของประเทศซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของโลกอาหรับจะโตระหว่าง 2.5-3% ในปีนี้ ซึ่งสอดคล้องกับประมาณการของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)

5. ซาอุดีอาระเบีย +8.77%
ตลาดหุ้นซาอุดีอาระเบียปรับตัวลงเมื่อนักลงทุนทั่วโลกวิตกว่าความสัมพันธ์ของซาอุดีอาระเบียกับประชาคมโลกจะถดถอยลง หลังจากที่สายลับซาอุดีอาระเบียสังหารและแยกชิ้นส่วน “จามาล คาช็อกกี” คอลัมนิสต์ของวอชิงตันโพสต์ในกรุงอิสตันบูลของตุรกีในเดือนตุลาคม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้นานาประเทศประณามซาอุดีอาระเบียและมีการตรวจสอบราชวงศ์ซาอุดีอาระเบียอย่างเข้มข้นตั้งแต่นั้นมา จนทำให้เกิดความสงสัยว่ามกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบียจะสามารถปฏิรูปเศรษฐกิจและสังคมได้สำเร็จหรือไม่ อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นซาอุดีอาระเบียยังสามารถปรับตัวขึ้นได้กว่า 8%

“ตลาดหุ้นแย่สุด” ปี 2561
1. เวเนซุเอลา -94.89%
ตลาดหุ้นเวเนซุเอลาเป็นตลาดที่แย่ที่สุดเมื่อเทียบเป็นเงินดอลลาร์ ดัชนี IBVC ล่มสลายมากกว่า 94% เมื่อประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร พยายามยุติความวุ่นวายทางเศรษฐกิจที่เรื้อรังมายาวนาน เช่นเริ่มใช้ธนบัตรสกุลโบลิวาร์แบบใหม่ ที่ตัดจำนวนเลขศูนย์ลง 5 หลักเพื่อบรรเทาภาวะเงินเฟ้อรุนแรง (Hyperinflation) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะพุ่งแตะ 1,000,000% แม้เวเนซุเอลาเป็นประเทศที่มีน้ำมันแต่รัฐบาลกลับถังแตก

2.อาร์เจนตินา -50.2%
อาร์เจนตินาต้องพยายามจัดการกับวิกฤติการเงินอีกครั้งในปีที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหุ้นอาร์เจนตินาปรับตัวลงมากกว่า 50% หลังจากที่รัฐบาลบัวโนสไอเรสพบว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของวิกฤติการเงินในตลาดเกิดใหม่ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ การขึ้นดอกเบี้ยของเฟดทำให้ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ ซึ่งทำให้หนี้ที่อยู่ในรูปเงินดอลลาร์มีราคาแพงมากขึ้น สงครามการค้าก็เป็นปัจจัยหนึ่งเนื่องจากมันส่งผลกระทบต่อราคาโภคภัณฑ์ซึ่งเป็นแหล่งรายได้สำคัญในตลาดเกิดใหม่

3. ตุรกี -43.35%
เมื่อค่าเงินอาร์เจนตินาอ่อนตัวอย่างหนักในปีที่ผ่านมา สกุลเงินในตลาดเกิดใหม่อื่น ๆ ก็อ่อนลงตามไปด้วย ซึ่งรวมถึงเงินลีราของตุรกี ความขัดแย้งทางนโยบายระหว่างประธานาธิบดีรีเซพ เทย์ยิบ เออร์โดกัน กับธนาคารกลางทำให้ตลาดเกิดความวิตกมากขึ้นและทำให้เรื่องค่าเงินยุ่งยากซับซ้อนมากขึ้น ขณะเดียวกัน การกักขังบาทหลวงสหรัฐก็ทำให้เกิดความตึงเครียดในปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ลงของรัฐบาลอังการากับวอชิงตันทำให้สินทรัพย์ตุรกีปรับตัวลงอย่างรุนแรง ก่อนที่ตุรกีจะยอมปล่อยตัวบาทหลวงแอนดรูว์ บรันสัน ในกลางเดือนตุลาคม ตลาดหุ้นตุรกีปรับตัวลงมากกว่า 43% ในปีที่ผ่านมา

4. จีน -28.64%
ดัชนีเซี่ยงไฮ้ คอมโพสิต มีมูลค่าลดลงมากกว่าหนึ่งในสี่ในปีที่ผ่านมา เนื่องจากสงครามการค้ากับสหรัฐยืดเยื้อ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประกาศพักรบเป็นเวลา 90 วันตั้งแต่เดือนธันวาคม แต่ผู้สังเกตการณ์ภายนอกยังคงสงสัยมากเกี่ยวกับโอกาสที่มหาอำนาจทั้งสองจะบรรลุข้อตกลงการค้าได้ก่อนปลายเดือนมีนาคม

5. ปากีสถาน -28.07%
ดัชนีการาจี 100 ของปากีสถานปรับตัวลงมากกว่า 28% ในปีที่ผ่านมา ทำให้ปากีสถานเป็นตลาดหุ้นที่แย่ที่สุดเป็นอันดับห้าของโลก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ไม่สามารถตกลงเงื่อนไขที่จะให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ปากีสถานได้ในเดือนพฤศจิกายน มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ปากีสถานตั้งเป้าให้ไอเอ็มเอฟลงนามให้ความช่วยเหลือเป็นครั้งที่สองนับตั้งแต่ปี 2559 ในกลางเดือนมกราคมนี้

Source: ข่าวหุ้น
https://www.cnbc.com/…/global-stock-markets-here-are-the-be…

0 Share