ชาวจีนแห่สมัคร เรียนระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยของไทยทั้งมหาวิทยาลัยรัฐและ เอกชนปีละหลายพันคน เหตุค่าเทอม ถูกกว่าออสเตรเลีย และสหรัฐ ขณะ ยอดผู้สมัครเรียนชาวจีนในสถาบัน การศึกษาในไทยแต่ละปีเพิ่ม 2 เท่า นับตั้งแต่ปี 2555

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า หนุ่มสาวชาวจีนแห่สมัครเรียนระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยของไทย ทั้งมหาวิทยาลัยรัฐและเอกชนปีละ หลายพันคน เนื่องจากต้นทุนเรียนถูกกว่าหลายประเทศรวมทั้งออสเตรเลียและสหรัฐ ประกอบกับบรรดามหาวิทยาลัยในไทยพยายามปรับหลักสูตรเพื่อรองรับผู้เรียนจากจีนแผ่นดินใหญ่ โดยยอดผู้สมัครเรียนชาวจีนตามสถาบันการศึกษาในไทยแต่ละปีเพิ่มขึ้น 2 เท่า นับตั้งแต่ปี 2555

ชาดา เตรียมวิทยา นักวิชาการ จากสถาบันเทคโนโลยีเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ซึ่งทำการวิจัยการย้ายถิ่น ของชาวจีนในประเทศไทย กล่าวว่า ทุกวันนี้มหาวิทยาลัยต่างๆเก็บค่าเทอมชาวจีนที่ต้องการเข้าศึกษาแพงกว่า คนไทยสองเท่า

"ทั้งมหาวิทยาลัยของเอกชน มหาวิทยาลัยรัฐบาล หรือแม้แต่สถาบันการศึกษาสำหรับพระเปิดคอร์สการเรียนที่พุ่งเป้าดึงดูดนักเรียนชาวจีน เพื่อสร้างรายได้เข้าสถาบันการศึกษาเพิ่มขึ้น ซึ่งการดึงดูดชาวจีนให้เข้ามาเรียนในไทยเพิ่มขึ้นเป็นหนึ่งในช่องทางดึงดูดการลงทุนในภาคการศึกษาจากชาวจีนด้วยเช่นกัน"

ไดแอน หู ผู้ช่วยศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ให้ความเห็นว่า สาเหตุหนึ่งที่ดึงดูดชาวจีนเข้ามาเรียน ในไทยเพิ่มขึ้น คือ ค่าเทอมที่ไม่แพงมาก เมื่อเทียบกับจุดหมายปลายทางอื่นๆ อย่างเช่น ออสเตรเลีย สหรัฐ และอังกฤษ โดยผู้สมัครเรียนชาวจีนส่วนใหญ่จะมาจากมณฑลทางใต้ พื้นที่ชนบท เพื่อหนีจากสภาพทางเศรษฐกิจที่ ไม่เอื้ออำนวยในถิ่นเกิดและใช้ระบบ การศึกษาเป็นเครื่องนำทางสำหรับ เข้ามาประกอบอาชีพที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าในเมืองไทย ที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ2ของภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้

"การลงทุนที่เพิ่มขึ้นในบรรดา มณฑลทางตอนใต้ของจีนช่วยสนับสนุนให้เกิดการค้า-การลงทุนระหว่างไทย และจีนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตามแนวโครงการริเริ่มหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" นายหู กล่าว

โครงการหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทางสนับสนุนให้เกิดการเชื่อมโยงด้านการค้าและเศรษฐกิจทั้งภาคพื้นดินและในทะเลระหว่างภูมิภาคเอเชีย แอฟริกา และยุโรปผ่านการลงทุนเพื่อพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณูปโภคมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์

บรรดานักศึกษาชาวจีน ระบุว่า มหาวิทยาลัยในไทยมีจุดน่าสนใจกว่า เมื่อคิดอยากไปเรียนต่อในต่างประเทศเนื่องจากมีค่าเทอมถูกกว่าและไทยมีกฎระเบียบการให้วีซ่าที่ผ่อนคลายมากกว่า เมื่อเทียบกับชาติตะวันตก โดยต้นทุนใน การศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาธุรกิจ ในไทยอยู่ที่ปีละ 3,700 ดอลลาร์ ขณะที่ ค่าเทอมในคอร์สการเรียนคล้ายๆ กันในสิงคโปร์จะอยู่ที่ปีละ 8,000 ดอลลาร์ ส่วนมหาวิทยาลัยอื่นๆ ในสหรัฐ เก็บค่าเทอมที่ ปีละ 60,000 ดอลลาร์

อีกปัจจัยหนึ่งที่หนุนให้ชาวจีนนิยม เข้ามาเรียนในประเทศไทยเพราะนโยบายคัดกรองชาวต่างชาติอย่างเข้มงวดของหลาย ประเทศ รวมทั้งในสหรัฐ ที่รัฐบาลภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะตรวจสอบภูมิหลังของชาวต่างชาติที่เข้ามา เรียนในสหรัฐอย่างละเอียด รวมทั้งมีข้อจำกัด สำหรับผู้อพยพเข้าเมืองเพราะวิตกกังวลว่านักศึกษาเหล่านี้จะแฝงตัวเข้ามาเพื่อจารกรรมข้อมูลละเอียดอ่อนของรัฐบาลสหรัฐ

ชาดา มีความเห็นว่า นักศึกษาชาวจีน เป็นส่วนหนึ่งของการแผ่อิทธิพลของจีน ผ่านซอฟต์ พาวเวอร์ หรืออำนาจอ่อนในไทย และการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของจำนวนนักศึกษาจีนจะทำให้จำนวนครูชาวจีน เพิ่มขึ้น จำนวนล่ามแปลภาษาจีนเพิ่มขึ้น และบรรดานักวิชาการชาวจีนในภาคการศึกษาของไทยจะเพิ่มขึ้น

ด้านรศ.ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า โครงการริเริ่มหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทางเปิดโอกาสให้นักศึกษาจากจีนเข้ามาศึกษาต่อในประเทศต่างๆแถบระเบียงเศรษฐกิจมากขึ้น ภายใต้ระบบการให้ทุนการศึกษา แต่ในส่วนของไทยนั้น ชาวจีนนิยมมาเรียนในไทยมากอยู่แล้วเพราะผลพวงจากการค้าและการท่องเที่ยว ระหว่างสองประเทศ

Source: กรุงเทพธุรกิจ

- Chinese students are flocking to Thai universities, drawn by cheaper fees and friendlier visa rules
https://www.scmp.com/…/chinese-students-are-flocking-thai-u…