สาเหตุของการปฏิวัติฝรั่งเศส” ในปี 1789 นั้น มีหลายแนวคิดหลักๆคือ

มูลเหตุของการปฏิวัติมีความซับซ้อนและยังเป็นที่ถกเถียงกันในหมู่นักประวัติศาสตร์ เช่นปัจจัยภายในต่าง ๆ ของระบอบเก่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัจจัยทางเศรษฐกิจรวมถึงความหิวโหยและทุพโภชนาการในประชากรกลุ่มที่ยากแค้นที่สุด ซึ่งบางส่วนเกิดจากสภาพอากาศผิดปกติจาก “สภาพอากาศ” ความหนาวเย็นผิดฤดู ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากกิจกรรมของภูเขาไฟที่ลากีและกริมสวอทน์

ใน ค.ศ. 1783-1784 ประกอบกับ “ราคาอาหารที่สูงขึ้น” และ “ระบบการขนส่งที่ไม่เพียงพอ” ซึ่งขัดขวาง “การส่งสินค้าอาหารปริมาณมากจากพื้นที่ชนบทไปยังศูนย์กลางประชากรขนาดใหญ่” ปัจจัยเหล่านี้มีส่วนทำให้สังคมฝรั่งเศสขาดเสถียรภาพในช่วงก่อนการปฏิวัติอย่างยิ่ง

สาเหตุอีกประการหนึ่งคือ “ภาวะใกล้จะล้มละลายของรัฐบาลจากค่าใช้จ่ายในสงครามที่ฝรั่งเศสเข้าร่วมรบจำนวนมหาศาล” โดยเฉพาะอย่างยิ่งสงครามเจ็ดปี (1756 จนถึง 1763 หรือ “สงครามโลกครั้งที่ศูนย์” โดยเกี่ยวข้องกับทุกประเทศมหาอำนาจในยุโรป มีการสู้รบเกิดขึ้นในห้าทวีป สงครามเจ็ดปีเป็นสงครามระหว่างสองข้างด้วยกัน ข้างหนึ่งนำโดยบริเตนใหญ่ พร้อมด้วยปรัสเซียและกลุ่มนครรัฐเล็กในเยอรมัน กับอีกข้างหนึ่งที่นำด้วยฝรั่งเศส พร้อมด้วยออสเตรีย, รัสเซีย, สวีเดน และซัคเซิน โดยรัสเซียเปลี่ยนข้างอยู่ระยะหนึ่งในช่วงปลายของสงคราม ) และ “สงครามปฏิวัติอเมริกา” สงครามใหญ่เหล่านี้ก่อหนี้จำนวนมหาศาลให้แก่รัฐบาลฝรั่งเศส ซึ่งสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงจากการสูญเสียการครอบครองพื้นที่อาณานิคมของฝรั่งเศสในทวีปอเมริกาเหนือ และการครอบงำทางพาณิชย์ของ “บริเตนใหญ่”ที่เพิ่มขึ้น ทั้ง “ระบบการเงิน” ที่ไม่มีประสิทธิภาพและล้าสมัยของฝรั่งเศสก็ไม่สามารถจัดการกับหนี้สาธารณะได้ ทางรัฐบาลพยายามจะแก้ไขสถานการณ์ทางการเงินด้วยการเก็บภาษีเพิ่ม

การที่ฝรั่งเศส ช่วย “อเมริกา” รบกับ “อังกฤษ” นั้น ไม่ได้ต้องการให้เอกราช กับอเมริกาแต่เพราะต้องการตัดกำลังของอังกฤษคู่แข่งอาณานิคมของตัวเอง ( เหมือนตอนที่ อเมริกา หลังได้เอกราช ก็ได้ช่วย “ฟิลิปปินส์” กับ “คิวบา” เป็นเอกราชจากสเปนนั้น ไม่ได้ต้องการให้ทั้งสองชาติสัมผัสกับอิสรภาพ หรือตัวเองซาบซึ้งกับระบอบปประชาธิปไตย แต่ต้องการจะเป็นเจ้าอาณานิคมแทนเจ้าเดิม )

หลังการปฏิวัติมีการ ยกเลิกระบบศักดินา ยุบมณฑลต่าง ๆ แบ่งประเทศออกเป็น 83 จังหวัด มีการพยายาม “รวมศูนย์อำนาจ” เข้าสู่ศูนย์เดียวที่ปารีส ไม่ยินยอมให้เป็นเอกเทศ จึงมีการต่อต้านขัดขืน

ในปี 1791 มีการเลือกตั้งสภานิติบัญญัติฝรั่งเศส ครั้งแรกในประเทศ ที่เฉพาะคนที่เสียภาษีเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์เลือก ที่มีสามพรรค สามกลุ่มที่ได้เสียงส่วนใหญ่คือ Constitutional Feuillant และ Jacobin แต่หลังจากนั้นประเทศก็วุ่นวาย

กระแสความตื่นตัวและอารมณ์ของประชาชนได้เปลี่ยนทิศทางของการปฏิวัติจนลึกลงไปถึงรากฐาน ซึ่งปูทางให้กับการขึ้นสู่อำนาจของ “มักซีมีเลียง รอแบ็สปีแยร์” ที่เป็นนักกฎหมาย นักการเมือง และ “กลุ่มฌากอแบ็ง” และกลายมาเป็น “เผด็จการโดยแท้” ภายใต้ “สมัยแห่งความน่าสะพรึงกลัว” ในระหว่างปี ค.ศ. 1793 ถึง 1794 มีผู้ต่อต้านพวกเขาถูกสังหารถึงระหว่าง 16,000 ถึง 40,000 คน ( ในตอนนั้นมันคือการเปลี่ยนจาก “ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช” ไปสู่ระบอบ “เผด็จการ” )

สโมสรฌากอแบ็ง Club des Jacobins เป็นสโมสรทางการเมืองที่ทรงอิทธิพลที่สุดในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส ก่อตั้งในช่วงการประชุมสภาฐานันดร ค.ศ. 1789 จากการรวมกลุ่มของ “พวกผู้แทน” จากแคว้น “ดัชชีเบรอตาญ” ที่เป็นแคว้นศักดินาแห่งหนึ่งนัฝรั่งเศส ที่เน้นการ “ต่อต้านราชวงศ์” หรือ “ล้มเจ้า” อันเป็นพวกต่อต้านระบอบกษัตริย์ เริ่มแรกมีสมาชิกไม่กี่คนและเป็นการรวมตัวอย่างลับ ๆ ก่อนที่ต่อมาได้พัฒนากลายเป็นขบวนการระดับชาติที่เคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้จัดตั้งสาธารณรัฐซึ่งมีสมาชิกมากกว่าครึ่งล้านคน อย่างไรก็ตาม หลังจากโค่นล้มระบบกษัตริย์สำเร็จและจัดตั้งสาธารณรัฐแล้ว สโมสรฌากอแบ็งได้มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายออกเป็น 2 ขั้วหลัก คือ ฝ่ายลามงตาญ (La Montagne) และฝ่ายฌีรงแด็ง (Girondin) ต่างฝ่ายต่างพยายามแย่งชิงอำนาจทางการเมือง ( ทะเลาะกันเองแบบคณะกระฏุมพีและอำมาตย์ของไทยหลังปี 2475 ที่เรียกว่า “คณะราษฎร” นั้น ผิดเพราะไม่ได้มาจากประชาชนชาวสยามเลย เป็นการแอบอ้างว่าเป็นความต้องการของคนจนส่วนใหญ่ )

ในปีค.ศ. 1793 “รอแบ็สปีแยร์” ก็ฉวยโอกาสตอนตนกำลังมีชื่อเสียงโด่งดังและช่วงที่ฝรั่งเศสกำลังถูกคุกคาม เข้ารับตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการความปลอดภัยส่วนรวม เขาจึงได้กลายเป็นจอมเผด็จการอย่างแท้จริง ในเวลาปีเดียว เขาจับกุมและประหารผู้คนนับพัน ๆ ตั้งแต่ความผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ จนถึงความผิดอุกฉกรรจ์ หรือแม้แต่การใส่ร้ายใส่ความโดยรอแบ็สปีแยร์ ต้องถูกประหารโดยเครื่องประหารกิโยตีน “เขาคิดว่าสิ่งที่เขาทำเป็นสิ่งที่ถูกต้องดีงาม” แต่คนอื่น ๆ เรียกช่วงเวลาที่รอแบ็สปีแยร์อยู่ในตำแหน่งว่า “สมัยแห่งความน่าสะพรึงกลัว” ศัตรูจึงขนานนามเขาว่า "เผด็จการกระหายเลือด" ( โจมตีระบบสมบูรณาญาสิทธิราชว่าไม่เป็นประชาธิปไตย แต่ตัวเองพอได้อำนาจกลายเป็น “เผด็จการ” เสียเอง )

ดังนั้นใน ค.ศ. 1794 จึงมีผู้คนจำนวนมหาศาลรวมตัวกันโค่นอำนาจและจับกุมรอแบ็สปีแยร์ เขาพยายามฆ่าตัวตายแต่ไม่สำเร็จ ต้องตายโดยการถูกประหารด้วยเครื่องกิโยตีนท่ามกลางผู้คนมากมายที่รุมล้อมในวันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ. 1794 ณ ปลัสเดอลาเรวอลูว์ซียง กลางกรุงปารีส

ย้อนไปเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ค.ศ. 1789 มีการเสนอเนื้อหาหลักแสดงถึงหลักการพื้นฐานของการปฏิวัติ ภายใต้คำขวัญที่ว่า "เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ" คำสวยหรูนี้หลอกใช้กับประชาชนฝรั่งเศสเท่านั้น แต่ปรากฏว่าไม่ได้นำไปใช้กับ “ดินแดนอาณานิคม” อย่างมากแค่พยายามเลิกระบบทาส แปลว่า “การปฏิวัติฝรั่งเศสไม่ได้หยุดการมองว่าประเทศอื่นๆของโลกมีฐานะต่ำกว่าฝรั่งเศส ไม่มีค่าที่จะมีฐานะเสมอภาค เท่าเทียม ไม่ได้รู้สึกเป็นพี่น้องภราดรภาพเหมือนกับคนฝรั่งเศส” ดั่งคำหาเสียงในหนังสือแต่อย่างใด

จนถึงวันนี้ “ฝรั่งเศส” ในทางปฏิบัติอำนาจที่แท้จริงก็ยังไม่ตกถึงท้องคนจนๆ แต่ตกอยู่ในตระกูลนักการเมือง นักธุรกิจ นักการเงิน นายธนาคารไม่กี่ตระกูลเหมือนเดิม ประชาชนชาวบ้านเสื้อก๊กเหลืองก็ถูกหลอกใช้ ทำหน้าที่ในอดีตเหมือนชาวบ้านที่ทำลายคุกบาสติลล์เพื่อจะ “ล้มเจ้า” เพื่อจะให้ขุนนางอำมาตย์ นายทุนกระฎุมพี ขึ้นสู่อำนาจ เป็นแค่การแก่งแย่งอำนาจหรือ “สงครามภายในของระบบศักดินาฝรั่ง” หรือ “เกมเศรษฐี” แค่นั้นเอง

Cr.Jeerachart Jongsomchai


https://th.wikipedia.org/…/%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B…
https://th.wikipedia.org/…/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B…
https://th.wikipedia.org/…/%E0%B8%8C%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B…
https://en.wikipedia.org/wiki/Maximilien_Robespierre
https://en.wikipedia.org/wiki/Jacobin

0 Share