เคยได้ยินคำว่า "เครดิตบูโร" กันไหมครับ??
เวลาเราไปยื่นขอสินเชื่อซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือกระทั่งบัตรเครดิต
พนักงานก็จะเอาเอกสารให้เซ็น เพื่อขอตรวจข้อมูลเครดิตบูโรของเรา
หรือเวลาที่ชำระหนี้ล่าช้าไปหลายงด
ก็จะมีคำพูดว่า ประวัติไม่ดี ติดเครดิตบูโรนะ
ทำให้เกิดความสงสัยว่าไอ้เจ้า "เครดิตบูโร" นี่มันคืออะไรกันแน่?? เราเลยขอพาคุณไปรู้จักกันให้มากขึ้นครับ...
ต้นกำเนิดของ "เครดิตบูโร"
ที่จริงไทยเรานั้นมีแนวคิดจะทำศูนย์กลางข้อมูลเครดิตมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2504 แล้ว
แต่สุดท้าย เครดิตบูโร หรือ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ถือกำเนิดขึ้นมาจริงๆ จังๆ เมื่อปี พ.ศ. 2541
(หลังวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้งนั่นเอง)
เป้าหมายก็เพื่อเป็นองค์กรกลางสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลทางการเงิน ของประชาชนและบริษัทต่างๆ
ซึ่งจะทำให้สมาชิกที่เป็นสถาบันการเงินทั้งหลาย สามารถวิเคราะห์ความเสี่ยงในการปล่อยเงินกู้ ความสามารถในการชำระเงินคืน
และป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น จากหนี้เสีย หรือโดนชักดาบนั่นเอง
เครดิตบูโร เก็บข้อมูลอะไรบ้าง??
ข้อมูลที่ถูกเก็บไว้กับเครดิตบูโร จะแบ่งออกเป็น 2 อย่างคือ
1. ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ อาชีพ ที่อยู่ สถานภาพการสมรส
2. ข้อมูลด้านสินเชื่อทุกรูปแบบ ทั้งสินเชื่อบ้าน รถ การค้ำประกัน รวมถึงประวัติการชำระหนี้อีกด้วย
เครดิตบูโรนั้นเป็นเพียงแหล่งเก็บข้อมูลเท่านั้น ซึ่งข้อมูลต่างๆ ก็มาจากสมาชิกที่เป็นทั้งธนาคาร บริษัทเงินทุน บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทประกัน หรือบริษัทบัตรเครดิต
เหล่าสมาชิกก็จะส่งข้อมูลของลูกค้าเข้ามาจัดเก็บเอาไว้รวมในที่เดียวกัน แล้วก็สามารถเรียกดูได้ร่วมกัน
สมมติว่าคุณเป็นหนี้บ้านกับธนาคาร A เป็นหนี้รถยนต์ธนาคาร B และมีหนี้บัตรเครดิตธนาคาร C
แล้วคุณไปขอกู้เงินกับธนาคาร D พอพวกเขาเข้ามาตรวจในเครดิตบูโร ก็จะรู้ว่าคุณมีหนี้ถึง 3 แห่งอยู่นะ
การขอดูข้อมูลเครดิตบูโร??
คนที่สามารถดูข้อมูลเครดิตบูโรของคุณได้ จะมีแค่ 2 ฝ่ายเท่านั้น
ฝ่ายแรกคือสถาบันการเงินที่คุณไปขอสินเชื่อ ซึ่งคุณเองก็ต้องทำเอกสารยินยอมให้ดูได้ เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ความเสี่ยงของคุณนั่นเอง
อีกฝ่ายก็คือตัวเราเอง (สามีภรรยาไปขอแอบดูก็ผิดกฎหมายนะ) สำหรับคนที่อยากตรวจสอบประวัติการชำระเงินของตัวเอง หรือเช็คว่ามีใครเอาชื่อเราไปก่อหนี้ที่เราไม่รู้ไว้รึเปล่า
ซึ่งการตรวจก็สามารถทำได้ง่ายๆ ที่เคาน์เตอร์ธนาคารทุกสาขานั่นเอง
ข้อมูลถูกต้องแค่ไหน? แล้วถ้ามีประวัติไม่ดีหล่ะ??
ข้อมูลในเครดิตบูโรนั้น มีข้อกำหนดว่าสมาชิกต้องส่งข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันที่สุด
ปกติแล้วการผ่อนชำระหนี้ของคุณ รวมไปถึงการปลดหนี้ จะได้รับการอัพเดททุกเดือน
อาจจะล่าช้าไปนิดหน่อย เพราะสถาบันการเงินเองก็ต้องตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องก่อนนำส่ง
(บันทึกข้อมูลเป็นเท็จ มีค่าปรับรายการละ 300,000 บาท และวันละ 10,000 บาททุกวันจนกว่าจะแก้ไข ก็ให้เค้าตรวจสอบให้ถูกต้องก่อนแล้วกัน ฮ่าๆ)
โดยปกติแล้วข้อมูลของบุคคลทั่วไป จะถูกบันทึกเอาไว้ในเครดิตบูโรให้เรียกดูย้อนหลังได้ 3 ปี
ขณะที่นิติบุคคล (บริษัท ห้างร้าน) จะถูกบันทึกเอาไว้ในเครดิตบูโร 5 ปี
ติด Blacklist เครดิตบูโร เป็นยังไงกัน??
คือ... ต้องชี้แจงก่อนว่า "แบล็คลิสต์" หรือ "ติดบัญชีดำ" ของเครดิตบูโร ไม่มีอยู่จริง
อ่าว งงล่ะสิ!?
ที่จริงมันเป็นแค่คำเรียกติดปากของคนที่มีประวัติการเงินไม่ค่อยดี ค้างชำระนานๆ พอไปขอกู้ครั้งหน้าเลยกู้ไม่ได้
หลายคนอาจจะเข้าใจว่าตัวเองติดบัญชีดำ โดนเครดิตบูโรกาชื่อเอาไว้ว่าคนนี้ห้ามปล่อยกู้นะ
จริงๆ แล้วมันไม่ได้เป็นอย่างนั้น...
เพราะเครดิตบูโร จะแสดงว่าคนนี้มีหนี้สินอะไรอยู่บ้าง แล้วมีประวัติการชำระเงินเป็นอย่างไร
เครดิตบูโร ไม่สามารถตัดสินว่าใครจะมีสิทธิ์กู้หรือไม่
ส่วนการพิจารณาว่าจะให้สินเชื่อหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถาบันการเงินเท่านั้นเลยครับ
อธิบายให้เห็นภาพง่ายขึ้น
คุณ A เคยค้างชำระหนี้ค่าบ้านเกิน 90 วัน แถมยังมีหนี้เป็นจำนวนมากเมื่อเทียบกับรายได้
แต่ตอนนี้เขาผ่อนบ้านหลังเก่าหมดแล้ว เลยไปขอกู้ซื้อบ้านอีกหลัง
ธนาคารเดิมก็ประเมินว่ามันเสี่ยงเกินไปที่จะปล่อยเงินกู้ให้ ก็เลยตัดสินใจไม่อนุมัติเงินกู้
แต่พอไปขอสินเชื่อกับธนาคารอีกแห่ง อาจจะประเมินว่าคุณ A นั้นน่ามีความสามารถผ่อนชำระบ้านหลังใหม่นี้หมดได้
แถมธนาคารมีโอกาสได้ดอกเบี้ยจากคุณ A มากขึ้น เพราะโดนปฏิเสธมาหลายแห่ง
ธนาคารอีกแห่งก็อาจจะปล่อยให้ได้ เป็นดุลยพินิจที่แตกต่างกันไปนั่นเอง
เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดของการเป็นหนี้ก็คือ ทำตัวเป็นลูกหนี้ที่ดี ชำระเงินให้ตรงเวลา
นั่นจะทำให้คุณมีเครดิตที่น่าเชื่อถือ สำหรับการยื่นขอสินเชื่อในครั้งต่อๆ ไปนั่นเอง
หวังว่าข้อมูลที่เพจแนวคิดพันล้านสรุปมา จะช่วยให้หลายคนเข้าใจ "เครดิตบูโร" กันได้มากยิ่งขึ้นนะครับ
ส่วนใครที่ยังมีข้อสงสัยเพิ่มเติม พิมพ์มาในคอมเม้นต์ ผมเองและลูกเพจคนอื่นๆ อาจจะช่วยกันตอบให้ได้ในบางจุด
แต่ถ้าให้หายข้องใจจริงๆ สามารถติดต่อบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ
แฟนเพจ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร)
เว็บไซต์ https://www.ncb.co.th/faq
หรือโทรสอบถามโดยตรงที่คอลเซ็นเตอร์ 02-643-1250 ได้เลยนะครับ
Cr.BillianairTH
ติมตามข่าวสารการเงิน เศรษฐกิจรอบโลกได้ที่ คลิ๊ก
เข้ากลุ่มนักเทรดใน Facebook คลื๊ก นี้