ZeroHedge
Is This Why Gold Just Had Its Best Month In 2 Years?
Tyler Durden. Jan 7, 2019

นี่คือสาเหตุที่เดือนธันวาคมเป็นเดือนที่ทองคำราคาขึ้นตลอดเดือนมากที่สุดในรอบสองปีหรือเปล่า

ราคาทองคำขึ้นมาต่อเนื่องสามเดือนเมื่อปลายปี 2018 โดยมีเดือนธันวาคมเป็นเดือนที่ขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่สองปีที่แล้ว (มกราคม 2017) ชาร์ทที่ 1

ในขณะเดียวกัน รีเสิร์ฟทองคำอย่างเป็นทางการของจีนเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบสองปี (ตั้งแต่ ตุลาคม 2016) ชาร์ทที่ 2

จำนวนทองคำสำรองของจีนนิ่งสนิทที่ 59.240 ล้านออนซ์มาตั้งแต่ตุลาคม 2016 ถึงพฤศจิกายน 2018 จากข้อมูลของ People’s Bank of China ..แต่มาเพิ่มขึ้นเป็น 59.560 ล้านออนซ์เมื่อสิ้นเดือนธันวาคม

ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเพิ่ม $11,000 ล้าน ในเดือนธันวาคม เป็น $3.07 ล้านล้าน ..อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นมีผลสะท้อนต่อค่าของเงิน ..ซึ่ง Goldman ประมาณว่า เพิ่ม $14,000 ล้านในเดือนธันวาคม

จากรายงานของ Bloomberg ..มันไม่ใช่แค่จีนที่ซื้อเพิ่ม ยังมีโปแลนด์และฮังการีที่สร้างเซอร์ไพร้ส์ในตลาด โดยเพิ่มทองคำของตนเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี

Matthew Turner นักวางแผนของ Macquarie Group Ltd. แห่ง London บอกว่า... "นี่คือสัญญานของ bullish.. ครั้งนี้มันมีหลายเหตุผล ..เรื่องใหญ่คือการทิ้งดอลล่าร์ แต่ก็ยังเดาเหตุผลแรงจูงใจอื่นๆของพวกเขาไม่ได้เลย"

จีนไม่เคยเปิดเผยจำนวนทองคำที่เพิ่มขึ้นมาเป็นเวลาหลายปี จนเมื่อธนาคารกลางของจีนเปิดเผยเมื่อเดือนกรกฎาคม 2015 ว่าเพิ่มขึ้น 57% เป็น 53.3 ล้านออนซ์ ..ที่นับเป็นการแถลงครั้งแรกในรอบหกปี

Matthew Turner "ผมมักจะเฝ้าระมัดระวังกับการเคลื่อนไหวตอนสิ้นปี ถ้าพวกเขาจะเพิ่มการซื้อ มันก็จะเหมือนกับเมื่อปี 2015-2016 อีกครั้ง"

จำนวนทองคำที่จีนถือครองเพิ่มขึ้นไม่สำคัญเท่ากับสัญญานที่ส่งออกมา ..ทำไมจีนเปิดเผยตัวเลขทองคำสำรองที่เพิ่มขึ้น..ตอนนี้ ?

ค่าเงินหยวนมีเสถียรภาพอิงอยู่กับทองคำมาตลอดหลายๆเดือน ..มาในไตรมาสสุดท้ายของปี 2018 จีนเริ่มปล่อยให้ทองคำเป็นฝ่ายอิงกับเงินหยวน ...ชาร์ทที่ 3

Alasdair Macleod ให้ความเห็นว่า ถ้าเงินหยวนจะเข้าแทนที่ดอลล่าร์ในการค้าของจีน จีนจะต้องหนุนค่าด้วยทองคำอย่างเป็นทางการ ....คงเป็นการยากที่สหรัฐจะเข้าแข่งขันในแผน sound money กับจีน ..แถมระบบการเงินของรัฐบาลสหรัฐตอนนี้อยู่ในภาวะย่ำแย่มากๆ ถ้าจะกลับมาเป็นระบบ sound money ก็คงจะต้องลดการใช้จ่ายภาครัฐลงมาแบบที่เป็นไปไม่ได้เอาเลย ..ปัญหานี้รัฐบาลจีนไม่มีเลย ...การออกพันธบัตรทองคำก็ไม่ได้เป็นไปเพราะต้องการเงิน แต่เป็นการรับรองราคาของทองคำกับค่าเงินหยวนมากกว่า

แต่ไม่ว่าจีนจะทำอย่างที่คาดกันนี้หรือไม่ ที่แน่ๆอย่างหนึ่งก็คือ วิกฤติเครดิตรอบนี้เกิดขึ้นแน่ และมันจะมีผลกระทบต่อทุกๆประเทศที่อยู่ในระบบเงินเฟียต (ไทยด้วย) ...อัตราดอกเบี้ยจะเป็นตัวปัญหา เพราะหนี้มหาศาลของรัฐบาลและเอกชนตลอดถึงคนทั่วไป เศรษฐกิจของแทบทุกประเทศตะวันตก..ล้วนอยู่ในหล่มกับดักหนี้ที่ไม่สามารถปีนกลับขึ้นมาได้ ....การจะกลับมาอยู่ในระบบของ sound money ดูจะเป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญที่ไม่ต้องเอามาพูดถึงกันเลย

ในที่สุดแล้ว การกลับเข้าใช้ sound money เป็นการแก้ปัญหาท่ีไม่ทำความเสียหายในแบบที่ fiat money ทำไว้คือการลดอำนาจซื้อของเงินไปเรื่อยๆ ..ลองคิดดูถึงกรณีของเวเนซูล่า การใช้ money ที่เป็น real money จะช่วยแก้ปัญหาของประเทศได้เลย แต่หนทางนั้นเต็มไปด้วยหลุมพรางที่จะทำให้รัฐบาลพังได้เลย ...ส่วนการซื้อเวลาโดยพิมพ์เงินเพิ่มเข้าไปก็มีแต่จะทำลายค่าเงินไปเรื่อยๆ วิธีนี้มันก็ใช้ได้อยู่หรอกตอนที่ เลห์แมน บราเธอร์พังลงใหม่ๆ ...แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว

สิบปีที่ผ่านมาจีนมีการขยายตัวของหนี้ที่เน้นไปที่ด้านการผลิต ถ้ามีการผิดพลาดเกิดขึ้น จีนจะต้องประสบกับปัญหาเครื่องจักรอุตสาหกรรมที่พ้นสมัย และปัญหาว่างงาน สวัสดิการสังคมของจีนก็มีไม่มาก อาจทำให้ต้องเผชิญหน้ากับการก่อความไม่สงบของปวงชนได้

ทางออกเดียวของจีนคือ ต้องใช้ระบบมาตรฐานปริวัตรทองคำกับเงินหยวน (gold exchange yuan standard) ...จีนจะต้องปฏิเสธสิ่งที่มหาวิทยาลัยของตะวันตกสอนเด็กหนุ่มสาวของตน ...ถ้ารีบทำทุกอย่างตอนนี้ จีนจะเป็นประเทศเดียวของโลกที่ยืนอยู่ได้เมื่อฝุ่นเริ่มจางลงจากวิกฤติ ประเทศอื่นๆก็คงจะต้องเคี้ยวฝุ่นไปก่อนโทษฐานที่ซื่อสัตย์อยู่กับเงินเฟียต ..unsound money ของตน

จีนจะเป็นตัวส่งสัญญานของโลก เตือนว่านี่ถึงช่วงสุดท้ายของดอลล่าร์หรือเปล่า..ดอลล่าร์ที่ยืนยงมาตั้งแต่เมื่อ สิงหาคม 1971 ..หลังจากที่มันสามารถดันให้ real money อย่างทองคำหลุดออกจากระบบการเงินไปได้.....

ZeroHedge
Is This Why Gold Just Had Its Best Month In 2 Years?
Tyler Durden. Jan 7, 2019

Spot Gold prices rallied for three straight months to end 2018, with December seeing the biggest monthly gold gains in around two years (since Jan 2017)...

At the same time, China's official gold reserves rose for the first time in around two years (since Oct 2016)...

China's gold reserves had been steady at 59.240 million fine troy ounces from October 2016 to November 2018, according to data from the People’s Bank of China, and suddenly jumped to 59.560 million fine troy ounces at end-December.

The PBOC's overall FX reserves rose by US$11bn in December to $3.07tn. However, The increase likely reflects the currency valuation effect, which Goldman estimates to be +$14bn in December.

It’s not just China buying. As Bloomberg reports, Poland and Hungary surprised the market in 2018 by adding to their gold holdings for the first time in many years.

“It’s a bullish sign for gold,” Matthew Turner, a commodities strategist at Macquarie Group Ltd. in London, said by phone.

“The reasons could be diversification, a wish to get away from the dollar, but it’s hard to be certain because we just don’t know enough about what their motivations are.”

As is very clear from the chart above, China has previously spent long periods without revealing increases in gold holdings. When the central bank announced a 57 percent jump in reserves to 53.3 million ounces in July 2015, it was the first update in six years.

“I’m always wary of year-end moves, but if they buy again, then it’ll look like they’re on another run of additions, like they did in 2015-2016.” Turner said.

Crucially, the size of the gold addition are far less important than the signaling effect - why did China decide now was the right time to publicly admit its gold reserves are rising?

After months of seeming stability in the yuan relative to gold, Q4 2018 saw China seemingly allow gold to appreciate relative to the yuan

One wonders if Alasdair Macleod is on to something when he notes that if the yuan is to replace the dollar for China's trade, officials will have to back it with gold...

It is hard to see how the US can match a sound-money plan from China. Furthermore, the US Government’s finances are already in very poor shape and a return to sound money would require a reduction in government spending that all observers can agree is politically impossible. This is not a problem the Chinese government faces, and the purpose of a gold-linked jumbo bond is not so much to raise funds; rather it is to seal a price relationship between the yuan and gold.

Whether China implements the plan suggested herein or not, one thing is for sure: the next credit crisis will happen, and it will have a major impact on all nations operating with fiat money systems. The interest rate question, because of the mountains of debt owed by governments and consumers, will have to be addressed, with nearly all Western economies irretrievably ensnared in a debt trap. The hurdles faced in moving to a sound monetary policy appear to be simply too daunting to be addressed.

Ultimately, a return to sound money is a solution that will do less damage than fiat currencies losing their purchasing power at an accelerating pace. Think Venezuela, and how sound money would solve her problems. But that path is blocked by a sink-hole that threatens to swallow up whole governments. Trying to buy time by throwing yet more money at an economy suffering a credit crisis will only destroy the currency. The tactic worked during the Lehman crisis, but it was a close-run thing. It is unlikely to work again.

Because China’s economy has had its debt expansion of the last ten years mostly aimed at production, if she fails to act soon she faces an old-fashioned slump with industries going bust and unemployment rocketing. China offers very limited welfare, and without Maoist-style suppression, faces the prospect of not only the state’s plans going awry, but discontent and rebellion developing among the masses.

For China, a gold-exchange yuan standard is now the only way out. She will also need to firmly deny what Western universities have been teaching her brightest students. But if she acts early and decisively, China will be the one left standing when the dust settles, and the rest of us in our fiat-financed welfare states will left chewing the dirt of our unsound currencies.

Is China's "signal" an explicit warning of the end to the dollar era that has existed since August 1971, when gold as the ultimate money was driven out of the monetary system.

Cr.Sayan Rujiramora

0 Share