against

จีนเตือนประชานเรื่องเดินทางไปยังสหรัฐฯ จนถึงสิ้นปี ซึ่งถือเป็นการเคลื่อนไหวชุดล่าสุดในขณะที่สงครามการค้าทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมได้อ้างถึงการยิงกราด

การปล้นและการใช้ความรุนแรงด้วยอาวุธเป็นเหตุผลในการออกคำเตือน แต่ไม่ได้ให้สถิติหรือรายละเอียดใด ๆ เพิ่มเติม ขณะเดียวกันกระทรวงการต่างประเทศก็เตือนว่าหน่วยงานในการบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ ได้ตามรังควานชาวจีนด้วยการสอบปากคำ

ผู้ประกาศคนหนึ่งของซีซีทีวีได้กล่าวว่า มีการยิงกราด การปล้นและการลักขโมยเกิดขึ้นบ่อยในสหรัฐฯ กระทรวงการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมจึงได้เตือนให้นักท่องเที่ยวชาวจีนประเมินความเสี่ยงอย่างเต็มที่ในการเดินทางไปยังสหรัฐฯ

เจิ้ง ซวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวในการแถลงข่าวว่า สถานการณ์ในขณะนี้มีความจำเป็นต้องออกคำเตือน และกล่าวว่า บางครั้งหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ ได้ตามรังควานชาวจีนที่ไปเยือนสหรัฐฯ ด้วยการสอบปากคำเมื่อเข้าหรือออกจากสหรัฐฯ และมีการสอบปากคำในที่ลับ และยังมีวิธีการอื่น ๆ อีกหลายวิธี ดังนั้นกระทรวงการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมจึงออกคำเตือนนักท่องเที่ยว และกระทรวงการต่างประเทศและสถานทูตจีนและสถานกงสุลในสหรัฐฯ จึงตัดสินใจออกคำเตือนเรื่องความปลอดภัยเพื่อที่จะได้ระวังความปลอดภัย ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่รัฐบาลควรจะทำ

ความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ ได้เพิ่มมากขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้หลังจากที่การเจรจาการค้าระหว่างสองฝ่ายได้ล้มลงเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม นับตั้งแต่นั้นมาคณะบริหารของทรัมป์ได้ขึ้นบัญชีดำบริษัทหัวเหว่ย เทคโนโลยีส์และกำลังพิจารณาจำกัดบริษัทเทคโนโลยีของจีนอีกในแบบเดียวกัน จีนได้ขู่ว่าจะขึ้นบัญชีดำของจีนเองต่อ “บริษัทที่ไม่น่าเชื่อถือ”

จาง ซู นักวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก อีโคโนมิคส์ในฮ่องกง กล่าวว่า ยากที่จะวัดผลกระทบต่อสหรัฐฯ นักท่องเที่ยวชาวจีนได้กลายเป็นแหล่งรายได้สำคัญของการท่องเที่ยวทั่วโลกในช่วงไม่กี่ปีมานี้ อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจสหรัฐฯ ใหญ่ ผลกระทบจริง ๆ อาจจะไม่มาก

จากการค้นหาตามสื่อของรัฐ จีนไม่ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับการเดินทางไปยังสหรัฐฯ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเป็นอย่างน้อย กระทรวงการต่างประเทศให้คำแนะนำแก่ผู้เดินทางเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่ศุลกากรสหรัฐฯ มีสิทธิ์ที่จะตรวจข้าวของต่าง ๆ ได้ เช่น กระเป๋า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และรถยนต์ โดยไม่ต้องมีหมายค้น นอกจากนี้ยังได้ให้คำแนะนำด้านความปลอดภัยต่อนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางไปยังเกาะไซปันซึ่งเป็นดินแดนของสหรัฐฯ ในมหาสมุทรแปซิฟิกหลังจากที่เกิดพายุไต้ฝุ่นในเดือนพฤศจิกายน

นักท่องเที่ยวจีนได้เดินทางไปยังสหรัฐฯ ลดลงแม้แต่ก่อนที่จะมีคำแนะนำ จากข้อมูลของสำนักงานการท่องเที่ยวและการเดินทางแห่งชาติ มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปยังสหรัฐฯ ในปี 2561 จำนวน 3 ล้านคน ลดลงจาก 3.2 ล้านคนในปีก่อนหน้า อย่างไรก็ดีชาวจีนยังคงใช้จ่ายมากขึ้นในขณะที่เยือนสหรัฐฯ โดยมีมูลค่า 36,400 ล้านดอลลาร์ในปี 2561 เพิ่มจาก 35,300 ล้านดอลลาร์ในปีก่อนหน้า ซึ่งทำให้ชาวจีนเป็นนักท่องเที่ยวที่ใช้จ่ายมากสุด

ในขณะเดียวกัน อัตราการเกิดอาชญากรรมในสหรัฐฯ ลดลง จากข้อมูลของสำนักงานสอบสวนของรัฐบาลกลาง จำนวนอาชญากรรมที่มีความรุนแรงลดลง 4.3% ในช่วงหกเดือนแรกของปี 2561 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ในขณะที่การฆาตกรรมลดลง 6.7% การจี้ปล้นลดลง 12.5% และการลักขโมยลดลง 6.3%

จีนมีประวัติที่ใช้การท่องเที่ยวเป็นอาวุธทางเศรษฐกิจต่อประเทศอื่น ๆ ในปี 2560 จีนห้ามจัดทัวร์ไปยังเกาหลีใต้เพื่อแสดงความไม่พอใจที่เกาหลีใต้ติดตั้งระบบขีปนาวุธที่ได้รับการช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ผลจากการห้ามครั้งนั้นทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจเกาหลีใต้ลดลง 0.4% ในปีนั้น

กระทรวงการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมจีนได้ออกคำเตือนในแบบเดียวกันต่อการเดินทางไปยังแคนาดาเมื่อเดือนมกราคมเมื่อมีความขัดแย้งทางการทูตหลังจากที่แคนาดาจับเมิ่ง ว่านโจว ซีเอฟโอของบริษัทหัวเหว่ย เทคโนโลยีส์ในแวนคูเวอร์ตามคำขอของสหรัฐฯ จีนอ้างการกักตัวเมิ่งเป็นเหตุผลในการออกคำเตือนโดยเรียกร้องให้ชาวจีนประเมินความเสี่ยงอย่างเต็มที่ก่อนเดินทางไปยังแคนาดา

การออกมาเตือนของจีนในครั้งนี้มีขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่จีนได้เตือนนักศึกษาจีนที่กำลังศึกษาอยู่ในสหรัฐฯ ให้เฝ้าระวังเนื่องจากคณะบริหารของทรัมป์ได้จำกัดการให้วีซ่าเพื่อการศึกษาและเพิ่มการตรวจสอบนักวิจัยชาวจีนที่ทำงานในอเมริกา

Source: ข่าวหุ้น

- China Warns Citizens Against U.S. Travel, Citing ‘Frequent’ Shootings
https://www.bloomberg.com/…/china-warns-citizens-against-u-…

0 Share