ปี 2017 อเมริกานำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่ารวม $505.5 พันล้าน ในขณะที่มีการส่งออกไปจีน $129.9 พันล้าน หมายถึงตัวเลขขาดดุลการค้าต่อจีน $375.6 พันล้าน
อเมริกาโจมตีว่าถูกจีนเอาเปรียบมานาน โดนละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา บริษัทอเมริกันที่ตั้งโรงงานในจีนต้องถ่ายทอดเทคโนโลยีให้จีน โดนัลด์ ทรัมป์กล่าวหาว่ารัฐบาลจีนให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในประเทศจีนทำให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม
อเมริกาต้องการลดการขาดดุลการค้ากับจีน และได้เริ่มต้นสงครามการค้าด้วยการตั้งกำแพงภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนล็อตแรกเมื่อวันที่ 23-08-2018 มูลค่าสินค้าที่เคยนำเข้าจากจีนรวม $16 พันล้าน
จีนโต้กลับด้วยกำแพงภาษีสินค้าที่เคยนำเข้าจากอเมริกามูลค่าเท่ากัน คือ $16 พันล้าน โดยเลือกขึ้นภาษีสินค้าที่เน้นไปที่ฐานเสียงของ โดนัลด์ ทรัมป์ เกษตรกรฟาร์มถั่วเหลืองอเมริกันได้รับผลการทบโดยตรง
มีการเจรจาระหว่างกันเพื่อหาข้อยุติของทั้งสองประเทศ รวมถึงการฟ้องร้องไปยังองค์การการค้าโลก แต่ไม่ได้ผล
ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 17-09-2018 สหรัฐอเมริกาประกาศตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีก $200 พันล้าน โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 24-09-2018 ต้องเสียภาษี 10% จนถึงสิ้นปี และจะเพิ่มเป็น 25% ในปี 2019
สินค้าจีนที่จะเจอกำแพงภาษี 10% ในคราวนี้ เช่น เครื่องปรับอากาศ อาหาร เฟอร์นิเจอร ของเล่น ฯลฯ
โดนัลด์ ทรัมป์ ยังขู่จีนด้วยว่า ถ้าตอบโต้อีกก็จะขึ้นภาษีให้สูงขึ้น และจะเพิ่มรายการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอีก $267 พันล้าน หมายถึงสินค้านำเข้าเกือบทุกรายการที่เคยนำเข้าจากประเทศจีน โดยประธานาธิบดีสหรัฐบอกว่าจะไม่ยอมให้จีนทำร้ายเกษตรกรอเมริกันอีก
หลังการประกาศกำแพงภาษีรอบใหม่ของอเมริกาในวันจันทร์ พอถึงวันอังคารที่ 18-09-2018 จีนก็โต้กลับด้วยประกาศการตั้งกำแพงภาษีสินค้าจากอเมริกา 5-10% สำหรับสินค้ามูลค่า $60 พันล้าน
มีรายงานข่าวเพิ่มเติมด้วยว่า กำหนดการเจรจาปัญหาทางการค้าระหว่างจีนและอเมริกาที่มีแผนจะมีขึ้นในวอชิงตันช่วงปลายเดือนนี้อาจถูกยกเลิก จีนจะไม่ขอเจรจาในขณะที่โดนกดกัน มันเหมือนกับเอาปืนมาจ่อหัวแล้วคุยกัน
โดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณเตือนบริษัทอเมริกันที่ไปตั้งโรงงานในต่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน ให้รีบย้ายโรงงานกลับอเมริกา ไม่อย่างนั้นต้องเจอภาษีสินค้านำเข้าอเมริกาสูงแน่ๆ
ประธานหอการค้าอเมริกาในจีนให้ความเห็นว่า สงครามการค้าจะทำให้บริษัทอเมริกันและคนอเมริกันเสียหายมากกว่าได้ประโยชน์ มีการสำรวจแล้วพบว่ามีบริษัทอเมริกันในจีนเพียง 6% ที่คิดจะย้ายโรงงานกลับอเมริกา
มาตรการหลักที่จีนใช้ตอบโต้อเมริกา คือ การตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากอเมริกาเข้าประเทศจีน แต่เมื่อขึ้นภาษีครบทุกรายการแล้ว จีนยังมีมาตรการอื่นๆที่สามารถตอบโต้ได้อีก เช่น กีดกันบริษัทอเมริกาที่ทำธุรกิจอยู่ในประเทศจีน ขายหุ้นกู้สหรัฐฯที่จีนถือครองอยู่ในมือ ลดค่าเงินหยวน ฯลฯ
หากจีนและอเมริกายังหาข้อยุติไม่ได้ ปัญหาจะบานปลายและป่วนไปทั้งโลก
มีรายงานข่าวว่าโรงงานของยุโรป ไต้หวัน ที่อยู่ในจีนและมีตลาดส่งออกหลักในประเทศอเมริกา กำลังวางแผนย้ายฐานการผลิตครั้งใหญ่ไปประเทศอื่นๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาข้อพิพาทระหว่างยักษ์ใหญ่โลกทั้งสองประเทศ
สงครามการค้าระหว่างจีนและอเมริกามีผลกระทบต่อประเทศไทยแน่ๆ มีทั้งด้านบวกและลบ
สินค้าที่จีนเคยซื้อจากอเมริกาคงต้องหาแหล่งทดแทนใหม่ ซึ่งเป็นโอกาสด้านบวกสำหรับประเทศไทย
ส่วนเรื่องการย้ายฐานการผลิตของโรงงานต่างชาติในจีนมาไทยเพื่อเป็นฐานการส่งออกสินค้าไปอเมริกา คงไม่ใช่โอกาสดีสำหรับประเทศไทย เราไม่ใช่ทางเลือกที่ดีสำหรับเหตุผลนี้
ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้าอเมริกาจำนวนมาก และอเมริกากำลังพยายามหาทางลดการขาดดุลการค้ากับประเทศไทยด้วย!!!
Cr.ธุรกิจ4.0
.
https://ustr.gov/countries-regions/china-mongolia-taiwan/peoples-republic-china
.
https://www.scmp.com/news/china/diplomacy/article/2164760/trade-war-taiwanese
.
https://www.scmp.com/news/china/politics/article/2164777/donald-trump-threatens-slap-tariffs-virtually-all-chinese-goods
.
https://www.scmp.com/business/companies/article/2164747/european-firms-mull-relocating-mainland-production-southeast-asia
.
https://www.scmp.com/economy/china-economy/article/2164679/us-firms-china-say-donald-trumps-tariffs-will-hurt-them-not
.
http://fortune.com/2018/09/17/trump-200-billion-tariff-against-chinese-products/