มาเลเซียจะยังคงใช้สินค้าของหัวเว่ยให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ สวนทวงแนวโน้มทั่วโลกที่เกิดจากความกังวลด้านความมั่นคงและการแบนบริษัทจีนของสหรัฐฯ นายกรัฐมนตรีของประเทศนี้ กล่าววันนี้ (30)
มหาเธร์ โมฮาหมัด กล่าวในการประชุมในกรุงโตเกียว ยอมรับถึงความกังวลด้านความมั่นคง แต่กล่าวว่า มันจะไม่ขัดขวางมาเลเซีย
“แน่นอน อาจมีการสอดแนมเกิดขึ้นบ้าง แต่มีอะไรให้ต้องสอดแนมในมาเลเซียล่ะ เราไม่มีอะไรต้องปิดบัง” นายกรัฐมนตรีวัย 93 ปี กล่าวในงานประชุมฟิวเตอร์ออฟเอเชีย
มหาเธร์ กล่าวว่า หัวเว่ยมีการเข้าถึงงานวิจัย “มากกว่าของมาเลเซียทั้งหมด ดังนั้นเราจึงพยายามใช้เทคโนโลยีของพวกเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
“ทุกคนทราบดีว่า หากประเทศใดต้องการรุกรานมาเลเซีย พวกเขาสามารถผ่านไปได้ง่ายๆ และเราจะไม่ขัดขืนเพราะว่ามันเสียเวลา” เขากล่าวเสริม
ความคิดเห็นของเขาออกมาหลังจากกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับบริษัทโทรคมนาคมของจีนรายนี้ที่ถูกกล่าวหาว่าทำการจารกรรมและถูกแบนจากสหรัฐฯ
ประเทศจำนวนหนึ่งห้ามไม่ให้หัวเว่ยทำงานเกี่ยวกับเครือข่ายอุปกรณ์เคลื่อนที่ในประเทศพวกเขา และหลายบริษัทปลีกตัวออกจากบริษัทนี้หลังการแบนของสหรัฐฯ โดยอ้างความจำเป็นทางกฎหมาย
ข้อขัดแย้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่สหรัฐฯและจีนเพิ่มกำแพงภาษีตอบโต้กัน พร้อมกับกล่าวหาอีกฝ่ายว่ามีพฤติกรรมการค้าที่ไม่เป็นธรรม
มหาเธร์เตือนเกี่ยวกับการตอบโต้อันดุเดือดระหว่างปักกิ่งและวอชิงตัน ซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่สองมหาอำนาจและพันธมิตรพวกเขาประจันหน้ากันในน่านน้ำพิพาททะเลจีนใต้
มหาเธร์ กล่าวว่า สหรัฐฯ และตะวันตกต้องยอมรับว่าตอนนี้ หลายชาติในเอเชียกำลังผลิตสินค้าที่สามารถแข่งขันได้ และไม่ควรข่มขู่คู่แข่งทางธุรกิจ
“แน่นอน ผมเข้าใจว่าหัวเว่ยมีความก้าวหน้าเหนือเทคโนโลยีของอเมริกาอย่างมาก สหรัฐฯ ต้องแข่งขันกับจีน จีนและสหรัฐฯ จะผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ” เขากล่าว
เขาเตือนว่า ความสัมพันธ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีนอาจส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ในทะเลจีนใต้ ซึ่งจีนอ้างอำนาจอธิปไตยทับซ้อนกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้
เขายังเรียกร้องความสงบในพื้นที่นี้ด้วย และเตือนว่า เหตุการณ์เล็กๆ อาจนำไปสู่ความรุนแรงได้โดยง่าย
Source: ผู้จัดการออนไลน์
- Malaysia’s Mahathir: We try to use Huawei technology ‘as much as possible’
https://www.cnbc.com/…/mahathir-we-try-to-use-huawei-techno…