เมื่อมองไปที่อนาคตของนวัตกรรมยานยนตร์ของโลก ก็ต้องมองไปที่บริษัท subsidiary ของ Volkswagens นั่นคือ Mobility Asia ...บริษัทนี้พัฒนา solution ด้านดิจิตัลให้แก่หุ้นส่วน ซึ่งรวมทุกด้านตั้งแต่
การชาร์จ..parking..การชำระเงิน..การ navigation ผ่านทางเสียง ....ทั้งหมดนี้ก็เพื่อสนองความต้องการของลูกค้าแห่งอนาคต
Mobility Asia เป็นตัวอย่างสำคัญที่แสดงว่าจีนพัฒนาจากการเป็นฮับการผลิต เป็นสังคมผู้บริโภค และตอนนี้เป็นแหล่งใหญ่ของนวัตกรรมสำหรับบริษัทต่างชาติแล้ว และกำลังตอบโจทย์ของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของวงการยานยนตร์
ผู้จัดการอาวุโสแห่งอุตสาหกรรมยานยนตร์ท่านหนึ่งกล่าวว่า "ทุกวันนี้ไม่ใช่วิศวกรเครื่องกลแล้ว แต่เป็นดิจิตัลที่สร้างคุณค่าแห่งการบริโภค" Mobility Asia เป็นคำตอบที่จะยุติการ outsource นวัตกรรมดิจิตัลจากซัพพลายเออร์ชิ้นส่วน แต่จะใช้เป็นบริษัทเทคโนฯ โดยตรง ...หรือพัฒนาขึ้นเอง
How Mobility Asia operates
Mobility Asia ไม่ได้เป็นแค่องค์กรข้ามชาติธรรมดาแบบที่ Volkswagen Group ซึ่งสร้างรายรับทั่วโลกได้ถึง $2.65 แสนล้านในปี 2017 ...สำนักงานของบริษัทเครือแห่งนี้ใช้ทั้งชั้นที่สองของออฟฟิสที่ใหญ่ที่สุดของ shared office .. WeWork ซึ่งในชั้นที่หนึ่ง พนักงานสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกับผู้ประกอบการได้อย่างเต็มที่
พนักงานส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 20s และ 30s และเคยทำงานในบริษัทเทคโนฯของจีนมาแล้ว รวมไปถึง Alibaba..Baidu รวมถึงบริษัทต่างชาติ บริษัทที่ปรึกษา McKinsey และ IBM ..ไม่มีการสืบทอดตำแหน่ง แต่ละทีมงานมีจำนวน 8-10 คน โฟกัสที่งานพัฒนาเฉพาะด้านเดียว ..ปฏิบัติงานในแบบกึ่ง startups ภายในบริษัท ..ทำงานด้วยวิธีการสกรัมแบบอเมริกันฟุตบอลล์ ทีมจะต้องมีผลงานหลายโปรดักส์ในชั่วสองสัปดาห์ ซึ่งจะถูกส่งไป pitched ต่อผู้บริหารระดับสูงต่อไป
พัฒนาการของการเชื่อมต่อการใช้ apps ของระบบ infotainment สำหรับรถยนตร์ไฟฟ้าซีรี่ส์ใหม่ ของ Volkswagen Group China ใช้เวลาแค่หกเดือนก็ออกสู่ตลาดผู้บริโภคของจีน ..bundled พร้อมกับระบบสั่งงานด้วยเสียงและระบบ smart parking ที่จ่ายค่าจอดรถได้อัตโนมัติ
The drivers behind the shift of automotive innovation to China .....พลังที่อยู่เบื้องหลังการย้ายนวัตกรรมยานยนตร์มาที่จีน
1) จีนเป็นตลาดรถยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ...การคืนทุนด้าน R&D ทำได้เร็วกว่าในตลาดที่ใหญ่เช่นจีน ..ในปี 2017 จำนวนรถยนตร์นั่งที่ขายในจีน 24.72 ล้านคัน เปรียบเทียบกับ 17.13 ล้านคันในสหรัฐ และ 15.63 ล้านคันในตลาดอียู
2) จีนมีแรงงานด้านเทคโนโลจีที่มากที่สุดในโลก และยังเพิ่มคุณภาพต่อเนื่องขึ้นเรื่อยๆ ..จีนผลิตผู้จบการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนฯ วิศวกรรม คณิตศาตร์ (science, technology, engineering and mathematics (STEM)..) มากกว่าทุกประเทศในโลก (ชาร์ต1) ..มากกว่าสหรัฐถึง 8 เท่า (568,000) และมากกว่าญี่ปุ่นถึง 24 เท่า (195,000) มหาวิทยาลัยของจีนมีการปรับปรุงตลอดเวลา เช่น ม.ชิงหวา ซึ่งอยู่ในตำแหน่งสถาบันชั้นนำด้านวิศกรรมและวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ในระดับโลก ..นอกจากด้านการศึกษาแล้ว อุตสาหกรรมเทคโนฯขนาดใหญ่ถึง 9 แห่งจาก 20 แห่งที่ติดอันดับมูลค่าสูงที่สุดในโลกก็อยู่ในจีน
3) รัฐบาลกลางของจีนสนับสนุน R&D (Research & Development) ในบริษัทผลิตรถยนตร์ ....นโยบายด้านนี้ของจีนทำให้เกิดการพัฒนาของอุตสาหกรรมรถยนตร์ในประเทศ ซึ่งในช่วงการปฏิรูปเศรษฐกิจของจีนเมื่อ 1970s และ 1980s มีกฎให้บริษัทต่างชาติต้องร่วมลงทุนกับจีน หลังจากนั้นมีการเรียกเก็บภาษีจากรถประกอบที่มีชิ้นส่วนที่นำเข้ามากเกินกำหนด ..แต่ปัจจุบันมีกฎให้ต้องมีค่า R&D ที่เป็นไปตามกำหนด ถ้ายังอยากอยู่ในตลาดจีน
4) ผู้บริโภคของจีน มีความคลั่งในอุปกรณ์ไฮเทคมากกว่าในโลกตะวันตก ....ในปี 2017 คนจีนใช้จ่ายใน Google Play, the iOS App Store และ app อื่นๆ ใน Android stores ถึง $33,000 ล้าน เท่ากับ 38% ของตลาดโลก ..สองปีที่ผ่านมาก็ใช้จ่ายเพิ่มขึ้นถึง 270% ..เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ใช้ smartphone ทั่วโลกซึ่งเฉลี่ยมีการติดตั้ง 80 apps ..ผู้ใช้ชาวจีนมีการติดตั้งถึง 100 apps
5) ภูมิทัศน์ที่มีการปรับเปลี่ยนในมหาวิทยาลัย เป็นตัวเร่งของนวัตกรรมใหม่ๆของยานยนตร์ ....เวลาที่การศึกษาของจีนล้าหลังตามไม่ทันมาตรฐานโลก..ได้ผ่านพ้นไปแล้ว ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยหลายแห่งเช่น ม.ชิงหวา ..ม.ปักกิ่ง ..ม.ฟู่ตั้น อยู่ใน 50 อันดับท้อปมหาวิทยาลัยของโลก (ชาร์ต2)....ชิงหวา ได้เป็นอันดับหนึ่งในด้านวินัย ทั้งด้านเทคโนฯ และด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์
Cr.Sayan Rujiramora