“โดนัลด์ ทรัมป์” สั่งสังหารนายพลระดับสูงของอิหร่าน ส่งผลให้ราคาน้ำมันโลกพุ่งกว่า 4% ในช่วงเช้าวันนี้ (3 ม.ค.) ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐกับอิหร่าน
กระทรวงกลาโหมสหรัฐ (เพนตากอน) แถลงคืนวันพฤหัสบดี (2 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งการให้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศสังหาร นายพลกัสซิม โซเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน ที่สนามบินนานาชาติในกรุงแบกแดดของอิรักช่วงเช้าวันศุกร์ (3 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น "เพื่อปกป้องบุคลากรของสหรัฐ"
“นายพลโซเลมานี มีแผนจะโจมตีสถานทูตสหรัฐหลายแห่งและพลทหารอเมริกันในอิรักและทั่วทั้งภูมิภาค นายพลโซเลมานีและกองกำลังคุดส์มีส่วนรับผิดชอบการเสียชีวิตของทหารอเมริกันและพันธมิตรหลายร้อยนาย และผู้บาดเจ็บอีกนับพัน” เพนตากอนระบุ
ณ เวลา 10.06 น.ตามเวลาไทย ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ พุ่งขึ้น 4.3% สู่ระดับ 63.84 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น 4.4% สู่ระดับ 69.16 ดอลลาร์/บาร์เรล
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่อิรักเปิดเผยว่า นายอาบู มาห์ดี อัล-มูฮัมดีส รองผู้นำกลุ่มฮาชด์ชาบี เสียชีวิตหลังจากเกิดเหตุการณ์โจมตีสนามบินในกรุงแบกแดดในช่วงเช้าวันนี้ด้วย
เมื่อปลายเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา ทหารสหรัฐได้โจมตีทางอากาศต่อที่มั่นในอิรักและซีเรียที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายที่ได้รับการหนุนหลังจากอิหร่าน เพื่อตอบโต้การโจมตีในอิรักที่ทำให้มีพลเรือนสหรัฐเสียชีวิต 1 คน และทหารสหรัฐได้รับบาดเจ็บหลายนาย
การโจมตีของสหรัฐก่อให้เกิดการประท้วงอย่างรุนแรงที่สถานทูตสหรัฐในกรุงแบกแดดเมื่อวันอังคาร (31 ธ.ค.) และวันพุธ (1 ม.ค.) ที่ผ่านมา จนสถานทูตได้รับความเสียหาย และสหรัฐประกาศส่งทหารประมาณ 750 นาย ไปยังตะวันออกกลางทันที และอาจส่งไปสมทบอีก
Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/860554…