CNBC

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ ระบุว่า สหรัฐมีความเสียเปรียบเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ เช่น ยูโร ขณะที่ธนาคารกลางของชาติอื่นยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ

แต่อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กลับอยู่ในระดับที่สูงกว่า

"ยูโรและสกุลเงินอื่นได้ถูกลดค่าเงินเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ส่งผลให้สหรัฐเสียเปรียบ ขณะที่อัตราดอกเบี้ยของเฟดอยู่ในระดับที่สูงเกินไป จากการคุมเข้มทางการเงิน แต่เฟดกลับไม่รู้เรื่องเลย" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าววานนี้ว่า จีนได้สร้างความได้เปรียบอย่างมากด้วยการทำให้สกุลเงินหยวนอ่อนค่าลง
ทั้งนี้ ในการให้สัมภาษณ์ต่อรายการ "Squawk Box" ของสำนักข่าว CNBC ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า การที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงสามารถกำหนดทิศทางนโยบายการเงินถือเป็นการเอาเปรียบแบบไม่ยุติธรรม

ปธน.ทรัมป์กล่าว ขณะที่หยวนร่วงใกล้แตะระดับต่ำสุดของปีนี้เทียบดอลลาร์

"เราควรจะมีสนามแข่งขันที่เป็นธรรม เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐพยายามขัดขวางเรา แต่ต่อให้ไม่มีสนามแข่งขันที่เป็นธรรม เราก็กำลังชนะ เนื่องจากการเก็บภาษีกำลังทำให้เราได้เปรียบอย่างมากในการแข่งขัน" ปธน.ทรัมป์กล่าว

ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า สหรัฐตัดสินใจที่จะไม่ตราหน้าว่าจีนเป็นประเทศที่ปั่นค่าเงิน แต่ก็มีผู้กล่าวว่า จีนได้ชดเชยความเสียหายจากการถูกเรียกเก็บภาษีด้วยการปล่อยให้หยวนอ่อนค่าลง

เมื่อวานนี้ หยวนได้ดิ่งลงใกล้ระดับต่ำสุดของปีนี้ โดยอยู่ใกล้ระดับ 7.00 เทียบดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์บางรายเตือนว่า หากหยวนทะลุระดับดังกล่าว ก็จะส่งผลกระทบต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก เนื่องจากมีการคาดการณ์กันว่าสหรัฐและจีนจะทำสงครามการค้าที่ยืดเยื้อ และยาวนานขึ้น

Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

- Trump says ‘devalued’ currencies put US at a disadvantage and the Fed doesn’t have a ‘clue’: https://www.cnbc.com/…/trump-says-devalued-currencies-put-u…

*******************
ทรัมป์ขานรับสหรัฐมีเงินเฟ้อต่ำ ถือเป็นเรื่องที่ดี

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ ระบุว่า สหรัฐมีเงินเฟ้อต่ำ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี

"สหรัฐมีเงินเฟ้อที่ต่ำมาก ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สวยงาม" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ค.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนเม.ย.

เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI เพิ่มขึ้น 1.8% ในเดือนพ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 2.2% ในเดือนเม.ย.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี PPI จะปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และดีดตัวขึ้น 2.0% เมื่อเทียบรายปี

ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหาร, พลังงาน และภาคบริการ เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ค. สอดคล้องกับเดือนเม.ย.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI พื้นฐานเพิ่มขึ้น 2.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 2.2% ในเดือนเม.ย.

Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

- Under pressure, Fed faces an outlook clouded by trade wars and signs of weakness
https://www.reuters.com/…/under-pressure-fed-faces-an-outlo…

0 Share