“อินเดีย” ได้แจ้ง “อเมริกา” ว่าอินเดียควรได้รับอนุญาตให้นำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านต่อไปโดยไม่ถูกลงโทษจากการคว่ำบาตร ( ฝ่ายเดียวของอเมริกา ) ต่ออิหร่าน ข่าวจากหนังสือพิมพ์ Hindustan Times ของอินเดีย
เพราะช่วงนี้เป็นช่วงอนุโลม กำลังจะหมดโปรโมชั่น ที่อเมริกาจะยินยอมให้ 8 ชาติ ซื้อน้ำมันอิหร่านได้ชั่วคราวเท่านั้น ก่อนจะห้ามแบบเด็ดขาดในเร็วๆนี้
Sushma Swaraj รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการภายนอกของอินเดียกล่าวว่าได้คุยทางโทรศัพท์กับนาย Mike Pompeo รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอเมริกาว่า “อินเดียควรได้รับอนุญาตให้นำเข้าน้ำมันดิบอิหร่าน โดยไม่ได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรจากอเมริกา”
“อินเดีย” นั้นนำเข้าน้ำมันดิบจาก “อิหร่าน” 23.5 ล้านตัน และมากขึ้นเรื่อยๆจากปีที่ผ่านมา แล้วจะให้ไปซื้อจากรายอื่นนั้นอินเดียบอกว่าเป็นไปไม่ได้เลย ( ที่สำคัญอินเดียซื้อจากอิหร่าน ไม่ได้ผ่านเงินดอลล่าร์ของอเมริกาด้วย แต่เป็นทองคำ )
“อินเดีย” เป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันดิบจาก “อิหร่าน” มากที่ร้อยละ 10 ของการส่งออก เป็นอันดับ 2 รองจาก “จีน”
ขณะที่นายกรัฐมนตรี Narendra Modi ใหม่ถอดด้ามอีกสมัย ก็กำลังถูกโจมตีจากฝ่ายค้านว่า ไม่สามารถให้การรับประกันได้ว่าจะซื้อน้ำมันจากอิหร่านต่อได้หรือไม่ และฝ่ายค้านบอกว่าการที่อเมริกาถอนตัวจาก "ข้อตกลง JCPOA, P5+1" , หรือ Joint Comprehensive Plan of ACTION, ในปี 2015 ฝ่ายเดียวนั้นเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย อินเดียจึงมีสิทธิที่จะซื้อน้ำมันจากอิหร่านต่อไป ขณะที่ “ตุรกี กับ จีน” นั้นไม่สนใจการห้ามของอเมริกา ยังคงนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านต่อไปไม่หยุด
( “หัวเหว่ย” ของ จีน เลยโดยเล่นงานชุดใหญ่ ถูกแบนจากกูเกิ้ล และทำให้ราคาน้ำมันตกลงอีกครั้ง หลังจากที่อเมริกา พยายามสร้างสงครามกับอิหร่าน เวเนซุเอล่าเร่งดันราคาน้ำมัน แต่ผู้นำไทยไม่สามารถบีบ ปตท. และ ผู้ขายต่างประเทศ ให้ลดราคาน้ำมันลงได้ คนไทยใช้น้ำมันแพงกันต่อไปแม้ราคาตลาดโลกลงมาหลายวันแล้ว หลังข่าวของหัวเหว่ยโดนแบน )
ตุรกี บอกว่า อิหร่าน นั้นมีประสบการณ์ในการรับมือกับการคว่ำบาตรของอเมริกาได้อย่างดีมาก ตั้งแต่ปี 1979 จนถึงปัจจุบันก็ยังอยู่ได้ดี และนักวิเคราะห์บอกว่า อเมริกาเล่นแรงไม่เกรงใจเพื่อนร่วมโลกแบบนี้ ยิ่งจะทำให้ไม่มีใครอยากคบค้าด้วย แม้แต่ “เกาหลีใต้” เองก็ยังร้องขอว่าหยุดการห้ามชาวบ้านซื้อน้ำมันอิหร่านดีกว่า
ปีนี้ 2019 เป็นปีแรก ที่”อเมริกา” วางเป้าหมายจะเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่อันดับหนึ่งของโลกแข่งกับรัสเซีย และโอเปก จากการขุดเชลออยในชั้นหินดินดาน
แต่ล่าสุดวันนี้ 24 พฤษภาคม 2019 ก็มีข่าวว่า อินเดียออกข่าวว่าจะซื้อนำเข้าอาวุธสงครามจากอเมริกาเป็นอันดับหนึ่ง แทน “รัสเซีย” โดยที่ผ่านมาระหว่างปี 2008 ถึง 2013 อินเดียนำเข้าอาวุธสงครามจากรัสเซีย มูลค่าถึง ร้อยละ 76 ของทั้งหมด และจาก 2013 – 2018 ก็ลดเหลือ ร้อยละ 58 ซึ่งโดยตัวเลข รัสเซียยังเป็นอันดับหนึ่งต่อไป แต่แล้ววันนี้นายกโมดิ ก็ออกมาบอกว่าต่อไปในอนาคต อินเดียจะนำเข้าอเมริกาจะมาเป็นอันดับ 1 แทน ( ... เหมือนเป็นการต่อรองเอาใจเพื่อขอซื้อน้ำมันจากอิหร่านต่อไป หรืออีกมุมหนึ่ง สร้างเรื่องอิหร่านมาเพื่อเป็นการบีบให้ซื้ออาวุธสงครามจาก “อเมริกา” แทนรัสเซีย และน้ำมันจากแหล่งอื่นแทน เช่น อเมริกา )
ซึ่งจริงๆแล้ว อเมริกา ออกกฏหมาย CAATSA มา ก็ต้องการครอบคุมเรื่องการห้ามซื้ออาวุธ ด้วย แต่อินเดียก็เพิ่งซื้ออาวุธป้องกันขีปนาวุธทางอากาศ S-400 พิสัยไกลจากรัสเซีย มูลค่า 5 พันล้านดอลล่าร์ ด้วยเช่นกัน ในปี 2018 ที่นับว่าสุ่มเสี่ยงกับการโดนเล่นงานจากอเมริกา
( “การค้าเสรีไม่มีอยู่จริง” จะเสรีถ้าเขาได้เปรียบ แต่ถ้าเขาเสียเปรียบ จะเป็น “มาเฟียเลือกตั้งธิปไตย” ทันที )
Cr. Jeerachart Jongsomchai
India intends to shift its top military supplier from Russia to the US, New Delhi’s ambassador to Washington has said, citing national security and military modernization among Prime Minister Narendra Modi's top priorities following his re-election.
https://www.presstv.com/…/Iran-India-oil-imports-US-waivers…
https://www.presstv.com/…/India-Prime-Minister-Narendra-Mod…