มาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อประชากรราว 16 ล้านคน หรือประมาณ 1 ใน 4 ของทั้งประเทศ ซึ่งจะเคลื่อนไหวในพื้นที่ได้อย่างจำกัด และไม่สามารถเดินทางออกจากภูมิภาคดังกล่าวได้ “ยกเว้นกรณีฉุกเฉินและจำเป็น” ซึ่งเจ้าหน้าที่จะพิจารณาเป็นรายกรณี เช่นเดียวกับการอนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าสู่พื้นที่จะมีการพิจารณาเป็นรายกรณีเช่นกัน บุคคลใดฝ่าฝืนอาจต้องรับโทษจำคุกนานสูงสุด 3 เดือน

ขณะเดียวกัน ผู้นำอิตาลีกล่าวด้วยว่า การจัดงานแต่งงานและงานศพขอให้ระงับไปก่อน เช่นเดียวกับการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา สถานบันเทิงและเพื่อการสันทนาการไม่ว่าจะเป็นโรงภาพยนตร์ โรงละคร สระว่ายน้ำ โรงยิม และบาร์ ให้ปิดบริการ ยกเว้นร้านจำหน่ายอาหารและภัตตาคารสามารถเปิดให้บริการได้ ระหว่างเวลา 06.00 ถึง 18.00 น. ของแต่ละวัน ( 12.00 ถึง 24.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย ) หากร้านใดมีการจัดสถานที่ให้ลูกค้ารับประทานอาหารภายในร้าน ต้องเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลไม่ต่ำกว่า 1 เมตร

อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ในภูมิภาคทางเหนือของอิตาลีอยู่ภายใต้มาตรการควบคุมโรคตั้งแต่ปลายเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ขณะที่กระทรวงศึกษาธิการสั่งปิดโรงเรียนทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา ถึงวันที่ 15 มี.ค.นี้เป็นอย่างน้อย และคณะรัฐมนตรีอิตาลีจัดสรรงบประมาณฉุกเฉิน 7,500 ล้านยูโร ( ราว 265,881.7 ล้านบาท ) ช่วยเหลือทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติด้านสาธารณสุขครั้งนี้

ทั้งนี้ การยกระดับมาตรการควบคุมโรคของรัฐบาลอิตาลีเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังกระทรวงสาธารณสุขของอิตาลีรายงานสถานการณ์เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ "โควิด-19" ว่าพบผู้ติดเชื้ออีก 1,247 คน เพิ่มจำนวนผู้ป่วยสะสมเป็นอย่างน้อย 5,883 คน ถือเป็นสถิติการพบผู้ป่วยใหม่แบบรายวันสูงที่สุด แม้รักษาหายแล้ว 589 คน แต่มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 233 คน เพิ่มขึ้นอีก 36 คน ถือเป็นประเทศที่เผชิญกับวิกฤติโรคโควิด-19 หนักหน่วงที่สุดในทวีปยุโรป.

Source: เดลินิวส์ออนไลน์: