สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ร่วงลงอย่างหนักในช่วงเช้านี้ หลังจากซาอุดีอาระเบียประกาศลดราคาขายน้ำมันอย่างเป็นทางการ (OSP) ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณเริ่มต้นของการทำสงครามราคาน้ำมัน หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตรที่นำโดยรัสเซีย ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงปรับลดการผลิตน้ำมันในการประชุมที่กรุงเวียนนาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ณ เวลา 09.00 น. ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ลดลง -10.72 ดอลลาร์ หรือ 25.97% แตะที่ 30.56 ดอลลาร์/บาร์เรล
สื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ซาอุดีอาระเบียวางแผนปรับเพิ่มการผลิตน้ำมันกว่า 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนเม.ย. หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตรที่นำโดยรัสเซีย ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงปรับลดการผลิตน้ำมันในการประชุมที่กรุงเวียนนาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ทางด้านอารามโค ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ได้ปรับลดราคาขายน้ำมันอย่างเป็นทางการ (OSP) สำหรับน้ำมันดิบทุกเกรดที่ส่งมอบให้กับลูกค้าทุกประเทศ
การประชุมนโยบายด้านการผลิตน้ำมันระหว่างโอเปกและพันธมิตรที่นำโดยรัสเซียได้เสร็จสิ้นลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยโอเปกได้เสนอให้ปรับลดการผลิตน้ำมันลงอีก 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวันนับตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.ไปจนถึงสิ้นปีนี้ เพื่อชดเชยอุปสงค์น้ำมันที่ลดลง อันเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยโอเปกต้องการให้ประเทศพันธมิตรให้ความร่วมมือลดการผลิตน้ำมันจำนวน 500,000 บาร์เรล/วัน จากจำนวน 1.5 ล้านบาร์เรล/วันที่กำหนดไว้
อย่างไรก็ดี รัสเซียแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว โดยยืนยันจุดยืนเดิมที่ต้องการให้ประเทศผู้ผลิตน้ำมันปรับลดกำลังการผลิตตามโควตาเดิมในขณะนี้ต่อไปจนถึงสิ้นสุดไตรมาส 2
นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดการณ์ว่า สงครามราคาน้ำมันอาจฉุดราคาน้ำมันดิบดิ่งลงแตะระดับ 30 ดอลลาร์/บาร์เรล
Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา