ปีนี้ บิตคอยน์ เงินสกุลดิจิทัล มีอายุครบ 10 ปี พอดี นับตั้งแต่ บุคคลนิรนาม ที่ใช้นามแฝงว่า ซาโตชิ นากาโมโต เผยแพร่เอกสาร ไวท์เปเปอร์ บรรยายถึง ระบบชำระเงิน อิเล็กทรอนิกส์ จากบุคคลถึงบุคคล ด้วยเงินดิจิทัล โดยไม่ผ่านคนกลางคือ สถาบันการเงิน และไม่ต้องมีหลักทรัพย์หนุนหลัง เมื่อเงินตราที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2008

ปลายปีที่แล้ว บิตคอยน์ มีมูลค่าสูงเกือบถึง 20,000 เหรียญต่อหนึ่งหน่วย ในตลาดซื้อขาย แต่เมื่อเวลาผ่านไปเพียง 10 เดือน ราคาบิตคอยน์ร่วงลงอย่างต่อเนื่องจนต่ำกว่า 4,000 เหรียญ ลดลงไปถึง 80% นักเก็งกำไรที่หวังรวยง่ายๆ ตายเป็นเบือ

บิตคอยน์ เป็นเงินดิจิทัลที่ได้รับคบามนิยมสูงสุดที่ทำให้เกิดเงินดิจิทัลสกุลอื่นๆ ตามมา เมื่อบิตคอยน์ไปต่อไม่ไหว ก็พลอยฉุดให้เงินดิจิทัลอื่นๆ ร่วงตามไปด้วย

กระแสการต่อต้านบิตคอยน์ จากหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนในหลายประเทศ โดยการออกมาตรการกำกับดูแลอย่างเข้มข้น ประกาศเตือนความเสี่ยงจากการลงทุนในเงินดิจิทัล ทำให้นักลงทุนเริ่มถอยฉาก ประกอบกับข่าวคราวความไม่โปร่งใสของ " เจ้ามือ" คือ บรรดาคนกลางซึ่งเป็นเว็บไซต์ ตลาดแลกเปลี่ยนซื้อขายเงินดิจิทัล ที่เกิดเหตุบิตคอยน์ และเงินสกุลดิจิทัลอื่นๆ ของนักลงทุนที่ฝากไว้ ถูก "แฮก" ขโมยหายไปอย่างไร้ร่องรอยหลายครั้ง โดยไม่มีผู้รับผิดชอบ ชดใช้คืนให้ ก็ยิ่งทำให้นักลงทุน นักเก็งกำไร พากันถอยห่างมากขึ้น

บิตคอยน์ และเงินดิจิทัลอื่นๆ ที่ถูกอุปโลกน์ว่า เป็นสกุลเงินแห่งอนาคต ความจริงแล้ว ก็คือ วัตถุแห่งการเก็งกำไรนั่นเอง โดยตัวของมันเองแล้ว ไม่มีอะไรที่จะเป็นหลักประกันความน่าเชื่อถือเลย

บิตคอยน์ ไม่มีลักษณะทางกายภาพที่จับต้องได้ เหมือนธนบัตรหรือเหรียญกษาปณ์ แต่เป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการเข้ารหัส หรือเป็น "ดิจิทัล" นั่นเอง

แต่ความจริงแล้ว บิตคอยน์ ไม่ใช่สกุลเงินแต่อย่างใด เพราะไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ค่าของบิตคอยน์ เปลี่ยนแปลงผันผวนตลอดเวลา เมื่อต้นปีนี้มีค่าไม่ถึง 1 พันเหรียญสหรัฐ เมื่อสัปดาห์ก่อน ราคาเพิ่มขึ้นไปเป็น 19,000 เหรียญ ในบางช่วงบางวันราคาปรับขึ้นลง หลายร้อยเปอร์เซ็นต์

จะใช้บิตคอยน์ชำระหนี้ได้อย่างไร ถ้าค่าของเงิน เปลี่ยน แปลงขึ้นลงเป็นจำนวนมากๆ อยู่ตลอดเวลา ที่มีข่าวว่า บางประเทศมีการรับรอง ให้ใช้บิตคอยน์ ชำระค่าสินค้า บริการได้ หรือองค์กรธุรกิจ รับบิตคอยน์ด้วย เป็นเพียงเรื่องที่พูดกันไป แต่ไม่เคยมีหลักฐานว่า มีการรับชำระหนี้ด้วยบิตคอยน์ อย่างเป็นเรื่องเป็นราวที่ไหนบ้าง

มีแต่คำเตือนจากรัฐบาลธนาคารกลางประเทศต่างๆ ทั่วโลกว่า การลงทุนในบิตคอยน์นั้น มีความเสี่ยงสูงมาก และบิตคอยน์ไม่ใช่สกุลเงิน

รัฐบาลจีน ห้ามซื้อขายบิตคอยน์ในประเทศ เพราะเห็นว่า มันคือการหลอกลวง

ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย นายวิรไท สันติประภพ กล่าวว่า บิตคอยน์ ไม่ใช่สื่อกลางการชำระเงินตามกฎหมาย หากจะให้นิยาม น่าจะเป็นเพียงสินทรัพย์หนึ่งเพื่อการลงทุน โดยอาจจะเรียกได้ว่าเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล และขณะนี้ยังไม่มีธนาคารใดในโลกที่รับรองสกุลเงินคริปโต เคอเรนซี เป็นสกุลเงินที่ใช้ซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ตามกฎหมาย

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ฟันธงว่า การลงทุนในบิตคอยน์ คือการพนันชนิดหนึ่ง

สินทรัพย์เพื่อการลงทุนนั้น จะเป็นอะไรก็ได้ สุดแท้แต่มนุษย์จะสร้างขึ้นมา และชักชวนให้คนอื่นๆ เอาเงินมาลงทุนซื้อขายสินทรัพย์นั้น โดยหวังผลตอบแทนจากการลงทุน

หุ้น พันธบัตร กรมธรรม์ประกันชีวิต เป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุน ในตลาดการเงิน เมื่อสามสิบกว่าปีก่อน เรามีแชร์ แม่ชม้อย ชักชวนให้คนเอาเงินมาลงทุนซื้อน้ำมันไปขาย ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนงดงาม เดือนหนึ่งหลักหมื่นภายในไม่กี่เดือนก็คุ้มทุน ที่เหลือคือ รายได้ที่อยู่เฉยๆ ก็งอกเงยขึ้นมาเองทุกวัน หรือเรียกให้ทันสมัยคือเป็น passive income

น้ำมัน ก็เป็นสินทรัพย์แห่งการลงทุนต่อจากยุคแชร์แม่ชม้อย การลงทุนแบบแชร์ลูกโซ่ ก็ยังคงมีอยู่มาจนถึงปัจจุบัน สินทรัพย์แห่งการลงทุนก็มีหลายๆ รูปแบบ เช่น อาหารเสริม เหล็กไหล สลากกินแบ่ง คอร์สสัมมนา โปรแกมทัวร์เกาหลีฯ ญี่ปุ่น ฯลฯ ที่ขบวนการต้นคิด ชักชวนให้คนเอาเงินมาลงทุน โดยอวดอ้างว่าได้ผลตอบแทนสูง ในเวลาอันรวดเร็ว

บิตคอยน์ ก็ไม่ต่างจากสินทรัพย์แห่งการลงทุนเหล่านี้ แต่เข้ากับยุคสมัย ที่โลกกลายเป็นโลกดิจิทัล และประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 คือเป็นสินทรัพย์การลงทุนที่เป็นดิจิทัล

บิตคอยน์เกิดขึ้นมาเกือบสิบปีแล้ว โดยบุคคลนิรนามในชื่อ Satoshi Nakamoto ซึ่งไม่มีใครรู้ว่า เป็นใคร และมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ บิตคอยน์ถูกสร้างขึ้นโดยการประมวลผล สมการคณิตศาสตร์อันสลับซับซ้อนด้วยซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นมาโดยเฉพาะต้องใช้คอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะสูง ทำงาน 24 ชั่วโมง ในห้องแอร์เย็นฉ่ำ เพื่อไม่ให้เครื่องร้อน ซึ่งมีศัพท์เฉพาะเรียกว่า การทำเหมือง หรือการขุดบิตคอยน์

การขุดบิตคอยน์ ต้องลงทุนเป็นเงินหลายแสนบาท เป็นค่าเครื่อง ค่าซอฟต์แวร์ และค่าไฟ สิ่งที่ได้คือ ชุดข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ที่เข้ารหัสที่ชื่อว่า บิตคอยน์ วิธีทำเงินจาก บิตคอยน์คือ ขายบิตคอยน์ให้คนที่ต้องการลงทุน แต่ไม่ต้องการทำเหมืองขุดบิตคอยน์เอง ขอซื้อจากคนที่มีบิตคอยน์อยู่ ต่อมาจึงเกิดธุรกิจ หรือ "ตลาด" ซื้อขายบิตคอยน์ขึ้น

วันนี้ เมื่อราคาบิตคอยน์ ร่วงลงมาเรื่อยๆ นักทำเหมืองขุดบิตคอยน์ทั้งหลาย ถอดใจ ขายเครื่องทิ้ง เพราะขุดต่อไปไม่คุ้มกับค่าไฟ ราคาเครื่องคอมพิวเตอร์ สำหรับขุดบิตคอยน์ โดยเฉพาะที่เคยสูงถึงเครื่องละ 120,000 บาท เหลือไม่ถึง 20,000 บาทแล้ว

ฉากสุดท้ายของบิตคอยน์ กำลังจะมาถึงในอีกไม่นาน.

โดย โชกุน
Source: ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 องศา

เพิ่มเติม
- Bitcoin crashes 37 percent in November, wiping $70 billion off of cryptocurrencies' market value: https://www.cnbc.com/…/bitcoin-fell-37-percent-in-november-…


ติดตามข่าวสารการเงิน เศรษฐกิจรอบโลกได้ที่ คลิ๊ก
เข้ากลุ่มนักเทรดใน Facebook คลื๊ก นี้
สนใจเรียนรู้การเป็นTrader กับกูรู คลิ๊ก


 

0 Share