ในที่สุดธนาคารพาณิชย์ก็ได้ประกาศขึ้นดอกเบี้ย โดยธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกสิกรไทย นำร่องขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากประจำทุกประเภท ทั้งฝากระยะสั้นและเงินฝากระยะยาว 0.25% โดยยังไม่มีการแตะดอกเบี้ยเงินกู้ ซึ่งทั้งสองธนาคารให้เหตุผลว่ายังไม่ขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ เพราะไม่ต้องการให้กระทบกับลูกค้าของธนาคาร
การขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารใหญ่มีผลต่อตลาดเงินมากกว่าธนาคารขนาดเล็กที่ปัจจุบันจ่ายดอกเบี้ยเงินฝากประจำสูงกว่าธนาคารขนาดใหญ่อยู่แล้ว เพราะมีส่วนแบ่งการตลาดในสัดส่วนที่สูงกว่า การขยับขึ้นลงของดอกเบี้ยแบงก์ใหญ่จึงมีความหมายที่สำคัญ และเมื่อมีธนาคารใหญ่แห่งหนึ่งหรือสองแห่งขึ้นดอกเบี้ย ก็จะมีธนาคารใหญ่แห่งอื่นขึ้นตามเพื่อรักษาเงินฝากไม่ให้ไหลออกไป
แม้จะยังไม่มีการขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ในขณะนี้ หรือในเร็วๆ นี้ แต่การขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากเป็นสัญญาณว่าในอนาคตดอกเบี้ยเงินกู้จะมีการขยับขึ้นอย่างแน่นอน
การขยับดอกเบี้ยมีทั้งคนได้ประโยชน์และคนเสียประโยชน์ ทางด้านคนได้ประโยชน์ก็คือผู้ฝากเงินที่จะได้รับผลตอบแทนจากการออมสูงขึ้น ในขณะที่คนที่เสียประโยชน์คือผู้ที่กู้ยืมเงินจากธนาคารที่จะเจอต้นทุนการชำระหนี้ที่สูงขึ้น ซึ่งทั้งสองฝ่ายล้วนเป็นลูกค้าของธนาคารทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสามารถกดให้ดอกเบี้ยไม่ขึ้นได้ เพราะการที่ดอกเบี้ยปรับขึ้นนี้ ไม่ได้เป็นเพราะธนาคารอยากจะขึ้นดอกเบี้ย แต่เป็นเพราะเศรษฐกิจโลก และตลาดการเงินโลกที่มีการเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดเงินทุนเคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็วและรุนแรง เพราะหลายประเทศได้ปรับขึ้นดอกเบี้ย ดังนั้นไทยซึ่งเป็นสมาชิกของโลกก็จะได้รับผลกระทบตามอยู่แล้ว ไม่สามารถจะฝืนกระแสของโลกได้
ในด้านคนที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นนั้นเป็นเรื่องที่ดี ส่วนคนที่เสียประโยชน์นั้นสิ่งเดียวที่จะบรรเทาความเดือดร้อนได้ก็คือ การเตรียมพร้อม ที่จะต้องรับมือดอกเบี้ยเงินกู้ที่กำลังจะปรับขึ้นในอนาคต โดยการวางแผนธุรกิจ การปรับโครงสร้างทางการเงิน การดูแลต้นทุนการเงินให้ดีเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เพื่อที่จะสามารถผ่านปัญหานี้ไปได้
สำหรับธุรกิจที่คิดว่าจะไปไม่ไหวเพราะเงินทองไม่คล่อง ค้าขายไม่ดี แล้วยังต้องเจอค่าใช้จ่ายเพิ่มจากการขึ้นดอกเบี้ยอีก ทางออกที่ดีที่สุด ก็คือการเดินเข้าไปคุยกับเจ้าหนี้ว่ามีความสามารถที่จะชำระหนี้ได้ เท่าไหร่ เจรจาขอยืดหนี้ ขอลดค่างวดที่ชำระต่อเดือน ขอปรับโครงสร้างการชำระหนี้ เพื่อหาทางออกร่วมกันให้ไม่เป็นหนี้เสีย ซึ่งไม่เป็นผลดี กับประวัติการชำระเงินของตัวเอง และไม่เป็นผลดีกับธนาคารที่จะเจอหนี้เสียเพิ่มขึ้น
ทางด้านผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจ จนถึงขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่ทางรัฐบาล หรือกระทรวงการคลังจะมาบ่นและตำหนิธนาคาร แห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่าการขึ้นดอกเบี้ยอาจจะทำให้เศรษฐกิจที่กำลังขยายตัวได้ดีสะดุดลง แต่ควรจะต้องคิดมาตรการรับมือหากเศรษฐกิจเกิดการชะลอตัว อีกทั้งการที่ค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการส่งออก จะทำอย่างไรได้บ้าง
การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์นั้น เท่าที่จับสัญญาณธนาคารเองก็ขึ้นอย่างระมัดระวัง หากต้องการให้ดอกเบี้ยขึ้นเยอะและเร็ว ธนาคารพาณิชย์เองคงจะเลือกขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ที่จะทำให้ดอกเบี้ยเงินกู้ขึ้นเร็ว
การวางแนวทางรับมือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะทำให้ผลกระทบที่จะได้รับจากดอกเบี้ยขาขึ้นลดความรุนแรงลง และสามารถที่จะรอดพ้นปัญหาไปได้
Source: Posttoday