ตำรวจมณฑลจี๋หลินระบุว่า ในปี 2019 นี้ทางตำรวจราจรเตรียมจะใช้เทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าเข้ามาช่วยตรวจจับพฤติกรรมเมาแล้วขับ
โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและหน่วยตำรวจจราจรเข้ามาร่วมมือกันสำรวจลักษณะทางกายภาพของผู้ที่เมาแล้วขับ หรืออยู่ภายใต้ฤทธิ์สารเสพติดขณะขับรถ
กล้องวงจรปิดความละเอียดสูงสำหรับตรวจจับใบหน้าจะสามารถรู้ได้ว่าคนขับดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่ จากลักษณะใบหน้าของเขา เช่น ใบหน้ามีเลือดสูบฉีดผิดปกติ การหายใจรัวเร็วหรือไม่เสถียร หรือบางครั้งอาจมีการผงกศีรษะและหาว
และด้วยความช่วยเหลือจากระบบระบุตัวตน ตำรวจจราจรที่ลาดตระเวนอยู่บนถนนจะได้รับแจ้งข้อมูลของรถยนต์ต้องสงสัย รวมถึงเลขทะเบียนและลักษณะต่างๆ ของรถยนต์คันดังกล่าว เพื่อดักจับและตรวจสอบปริมาณแอลกอฮอล์อีกครั้ง
ทั้งนี้ ข้อมูลจากหน่วยความปลอดภัยสาธารณะในมณฑลจี๋หลินชี้ว่า เมื่อปีที่ผ่านมามีคดีเมาแล้วขับทั้งหมด 6,300 คดี และเป็นคดี DUI (Driving under the influence) คือขับรถขณะอยู่ใต้ฤทธิ์แอลกอฮอล์ สารเสพติด หรือยาคลายเครียดมากถึง 29,000 คดี
เมาแล้วขับเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนของจีนมาอย่างยาวนาน ปี 2018 ที่ผ่านมามีผู้ขับขี่ 17,264 รายที่ถูกห้ามขับรถตลอดชีวิต และในจำนวนนี้มีผู้ที่ผิดฐานเมาแล้วขับและเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงอยู่ 5,149 ราย