ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ถูกประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ วิจารณ์บ่อยครั้งจนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว แต่ไม่กี่วันมานี้ประธานาธิบดีเล่นหนักมือขึ้น จนเกิดข้อกังวลว่าเฟดอาจตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง
ไม่กี่วันก่อน ทรัมป์ ไม่ใช่แค่เรียกร้องให้เฟดลดอัตราดอกเบี้ยเท่านั้น แต่เขายังแต่งตั้งคนสนิท 2 คนนั่งในคณะกรรมการบริหารเฟดทั้งสตีเฟน มัวร์ วัย59 ปี นักเศรษฐศาสตร์อดีตที่ปรึกษาทีมหาเสียงทรัมป์ กับเฮอร์แมน เคน วัย 73 ปี อดีตคณะกรรมการบริหารเฟดสำนักงานแคนซัสซิตี้ และอดีตประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) เครือร้านพิซซ่า
เคน เคยสมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2555 แต่ถูกกล่าวหาว่าประพฤติผิดทางเพศซึ่งเขาปฏิเสธ แต่ก็ยกเลิกการหาเสียงเป็นตัวแทนพรรค
ตอนนี้ที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2563 ใกล้เข้ามาทุกที ทรัมป์จึงมักอวดเสมอว่าเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง แต่เมื่อวันศุกร์ (5 เม.ย.) เขากลับบอกว่าอยากให้เศรษฐกิจทะยานเหมือนจรวดซึ่งจะเป็นเช่นนั้นได้ ทรัมป์เรียกร้องให้เฟดเริ่มใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินที่เคยใช้หลังวิกฤติการเงินอีกครั้ง ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับระบบเศรษฐกิจ
ความเห็นของทรัมป์อาจขัดหูผู้เชี่ยวชาญบางคน แต่ไม่ได้มีเขาคนเดียวที่คิดว่า เฟดไปไกลมากในปีที่ผ่านมา นักเศรษฐศาสตร์อย่างโจเซฟ ลาวอร์ญา จากธนาคารนัททิซิสก็คิดว่าเฟดเข้มงวดเกินไป
ขณะที่ไมเคิล กาเพ็น จากบาร์เคลย์สรีเสิร์ช กล่าวว่า สิ่งที่ทรัมป์พูดอาจทำให้เกิดคำถามถึงความเป็นอิสระของเฟด และอาจมองได้ว่า นั่นเป็นความพยายามแทรกแซงนโยบายการเงิน
ทิม ดายอาจารย์เศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยออริกอน ผู้เชี่ยวชาญด้านธนาคารกลาง เชื่อว่า ความเป็นอิสระของเฟดถูกสั่นคลอนมากที่สุดในรอบหลายสิบปี
ทำเนียบขาวไม่เคยกดดันเฟดแบบนี้เลยนับตั้งแต่ทศวรรษ 70 ตอนนั้นก่อนที่อดีตประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน จะลงเลือกตั้งอีกครั้งในปี 2515 เขาเคยกดดันอาร์เธอร์ เบิร์นส ประธานเฟดให้ลดอัตราดอกเบี้ย
“โดนัลด์ ทรัมป์ ใช้อารมณ์กับ (ประธานเฟด) เจอโรม เพาเวลล์ และเพื่อนร่วมงาน ที่เดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ย (ปี 2561) แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าตนแสดงบทบาทในเฟดได้สามารถแต่งตั้งใครก็ได้ที่ต้องการไปทำงานในธนาคารกลาง”นักวิชาการให้ความเห็น
ตอนเป็นประธานาธิบดีใหม่ๆ ทรัมป์ มีตัวเลือกแบบเดิมๆ มากมาย เช่น ริชาร์ด คลาริดา หรือแรนดัล ควอร์ลส นักเศรษฐศาสตร์ในกระทรวงคลัง
อย่าลืมว่า เพาเวลล์ อดีตวาณิชธนกร หนึ่งในคณะกรรมการผู้ว่าการเฟด เป็นคนที่ทรัมป์เสนอชื่อให้มานั่งตำแหน่งประธานเฟด แทนเจเน็ต เยลเลน ประธานหญิงคนแรกของเฟด ผู้ได้รับการเสนอชื่อจากประธานาธิบดีบารัก โอบามา
แต่ตอนนี้ทรัมป์เริ่มตำหนิสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังแล้วว่า ไม่น่าแนะนำเพาเวลล์เลย
“ผมว่าผมติดแหง็กอยู่กับคุณนี่ล่ะ”หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล รายงานถึงบทสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีกับขุนคลัง
ท่ามกลางแรงกดดันที่ทรัมป์มีต่อประธานเฟดคนส่วนใหญ่เชื่อว่า ไม่มีกฎหมายให้อำนาจทรัมป์ปลดเพาเวลล์ แล้วตั้งคนใหม่มาทำงานต่อไปอีก 3 ปีจนครบเทอม
เพาเวลล์เองก็ระมัดระวังไม่แสดงความเห็นถึงความไม่พอใจของประธานาธิบดี เมื่อเร็วๆ นี้เขายืนยันว่า ทรัมป์ปลดเขาไม่ได้แต่นักวิชาการอาจไม่คิดเช่นนั้น
“ถึงขณะนี้ผู้จับตาดูเฟดเชื่อว่า เฟดเป็นองค์กรเดียวที่สามารถยืนต้านความโกลาหลของรัฐบาลวอชิงตันได้ผมคิดว่าสิ่งที่เราเห็นไม่ได้เป็นความจริงเลย สัญญาณเตือนเริ่มมีมาแล้ว”
วันศุกร์เช่นกันลาร์รี คัดโลว์หัวหน้าที่ปรึกษาด้านเศรษฐศาสตร์ของทรัมป์ พยายามปกป้องท่าทีของเจ้านาย
“นี่คือประเทศเสรี ประธานาธิบดีมีความเห็นมากมายที่ได้รับการป้อนข้อมูลมาอย่างดี ตามประสานักธุรกิจและนักลงทุนผู้ประสบความสำเร็จ เราไม่ได้กดดันหรือชี้นำความเป็นอิสระของเฟด แต่เราก็มีมุมมองของเรา”
Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
เพิ่มเติม
https://www.cnn.com/…/larry-kudlow-state-of-the-…/index.html