ในที่สุด เราก็ได้เงินค่าเงินบาททะลุไปที่ 29.xx บาท/ 1 $USD เรียบร้อย เมื่อไม่กี่ชั่วโมงมานี้เอง (ล่าสุดกลับมาใกล้ 30 ขึ้นนิดนึง)

เมื่อค่าเงินบาท/$USD แข็งต่อเนื่องไปเรื่อยๆ...
จะเกิดผลกระทบอะไรกับคนไทยและประเทศไทย

1. สกุลเงินบาท เป็นสกุลเงินเล็กที่เป็นฝ่ายตามอัตราแลกเปลี่ยนที่ตลาดโลกกำหนด โลกว่าเราควรอยู่อัตราที่เท่าไหร่ เราก็ต้องรับสภาพมาตามนั้น

2. การทำธุรกิจกับที่มีการรับ/จ่ายด้วยสกุลเงินต่างประเทศ จะทำเหมือนค้าขายในประเทศด้วยเงินบาทไม่ได้ เราจำเป็นต้องให้ผู้มีความรู้เข้ามาช่วยในเรื่องเทคนิคอื่นๆเพิ่มเติมนอกเหนือจากการขายทั่วไป เช่นการกำหนดอัตราซื้อขายล่วงหน้า ว่าถ้าซื้อขายกันภายใน 3 เดือนนี้ จะยึดอัตราแลกเปลี่ยนเท่าไหร่เป็นเกณฑ์

3. บาทแข็งค่าขึ้น แปลว่าใครที่ส่งออกอยู่ เคยขายได้ 1 เหรียญ = 30 บาท แต่วันนี้เหลือ 29.90 หายไปเหรียญละ 10 สตางค์ ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องขำ.... แค่ 10 สตางค์เอง กลัวอะไรวะ ....

4. เวลาส่งออก ส่งกันทีนึงหลายหมื่นหลายแสนเหรียญ ถ้าอุตสาหกรรมหนักเช่นรถยนต์ อิเลกทรอนิกส์ (พวกชิพคอมพิวเตอร์ มือถือ) ส่งออกตู้นึงเป็นล้านเหรียญเพราะมูลค่ามันสูง

วันนึงมีของออกจากท่าเรือกี่ตู้
อาทิตย์นึง
เดือนนึง
ปีนึง
นับทบไปเรื่อยๆ

5. ประเทศไทยส่งออกอยู่เดือนละประมาณ 2 หมื่นล้านบาท แปลว่าเราจะได้เงินน้อยลงจากที่ควรได้ประมาณ 2 พันล้านบาททุกเดือน นั่นคือจำนวนเงินที่ควรจะมาหมุนเวียนในประเทศที่หายไปกับอากาศ

6. ไม่นับเด้งที่ 2 คือ เมื่อเงินบาทเราแข็ง หมายถึงผู้ซื้อต้องจ่ายเงินแพงขึ้นเพื่อให้ได้ของเท่าเดิม วิธีแก้ปัญหาของผู้ซื้อที่ง่ายที่สุดคือ ไปหาซื้อจากแหล่งอื่นเท่าที่ทำได้ สินค้าที่ถูกทดแทนได้ง่าย จะได้รับผลกระทบเต็มตัว เช่น เกษตร ยาง

7. และเราก็รู้กันดีว่า เมื่อไหร่ที่ลูกค้าเกิดการ switch ไปซื้อจากแหล่งอื่นได้แล้ว การจะเรียกกลับมานั้นมันยากแค่ไหน

8. ในมุมของการเที่ยว ที่ไม่ได้กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าได้ นักท่องเที่ยวตัดสินใจจะไป/ไม่ไป ก็ดูจากค่าเงินช่วงนั้น ถ้าบาทแข็งแปลว่ามาที่นี่แล้วเที่ยวแพง ก็ไปเที่ยวที่อื่นก่อนก็ได้

เศรษฐกิจไทยอยู่ได้ด้วยท่องเที่ยวไม่ใช่หรือ
ถ้านักท่องเที่ยวหายไปสัก 10% อะไรจะเกิดขึ้น

9. วงจรอันน่ากลัวที่เห็นประจำ

นักท่องเที่ยวเห็นบาทแข็ง บางส่วนเลยหนีไปเที่ยวที่อื่น
คนไทยเห็นบาทแข็ง บางส่วนยิ่งรีบไปเที่ยวต่างประเทศ

สรุปคือไปกันหมด

10. บาทแข็งใช่ว่าจะแย่ไปหมด เพราะคนที่ได้ประโยชน์คือรัฐบาลที่มีหนี้ต่างประเทศอยู่ แปลว่าเราใช้เงินบาทน้อยลงในการไปจ่ายหนี้คืน ถือเป็นกำไรของชาติ เราก็หวังว่าส่วนต่างกำไรตรงนั้นจะถูกนำมาใช้ในการพัฒนาประเทศ ไม่ใช่หายไปไหนก็ไม่รู้

11. รายใหญ่ที่สุดที่ได้ประโยชน์คือธุรกิจน้ำมันดิบ เพราะแต่ละเดือนเรานำเข้าเป็นมูลค่ามากจริงๆ

คนไทยควรได้ใช้น้ำมันราคาถูกกว่านี้ และน้ำมันเป็นสิ่งเดียวที่ผู้ค้าปลีกในประเทศสามารถกำหนดราคาเองได้
ถ้าน้ำมันราคาถูกลง เศรษฐกิจไทยจะไปได้ไกลกว่านี้อีกมากนะ

เราเป็นประเทศที่ตลกมาก
ตอนเงินบาทอ่อนมาบอกน้ำมันเราแพงเพราะบาทอ่อน
แล้วตอนบาทแข็งทำไมราคาน้ำมันไม่ถูกลง??

12. รองลงมาคือธุรกิจที่นำเข้าของมาต่างประเทศมาขายยิ้มกันถ้วนหน้า เช่นมือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ วัตถุดิบอาหาร สินค้าพวก made in XXX ทั้งหลาย

ข้อนี้ ส่วนต่างกำไรเข้าผู้ขายอย่างเดียว เพราะเค้าคงไม่ปรับราคาขายตามอัตราแลกเปลี่ยน แบบ วันนี้บาทแข็ง เรามาลดราคาขาย (ราคาป้าย) มือถือลงกันเถอะ อะไรแบบนี้ แต่สิ่งที่ผู้ซื้อจะได้คือการซื้อตามโปรฯที่แข่งกันออกมาให้เลือกจนตาลาย

13. ใครส่งลูกเรียนต่างประเทศอยู่ตอนนี้ถือว่าโชคดี จ่ายค่าเรียน ค่ากินอยู่ถูกลง

14. สิ่งที่ควรทำในตอนนี้ สำหรับผู้ประกอบการที่พอมีกำลัง คือเริ่มศึกษาเอาเทคโนโลยีจากต่างประเทศเข้ามาพัฒนาสินค้า พัฒนาการผลิต อย่ามัวแต่ขายของแบบเดิมที่คนซื้อสามารถซื้อจากไหนก็ได้

15. หมดยุคการเลือกซื้อเพราะความสัมพันธ์ ความคุ้นเคย แต่เป็นยุคกันผู้ซื้อเลือกเราเพราะความแตกต่าง คุณภาพ 2 สิ่งนี้คือตัวมัดใจให้ลูกค้าเปลี่ยนใจไม่ได้

16. ช่วงเงินบาทแข็งคือช่วงเวลาที่เหมาะกับการยกเครื่องธุรกิจด้วยเทคโนโลยี เพราะเราจะลงทุนด้วยเงินที่น้อยกว่าเดิม

17. ขยายตลาด ไปออกงานแฟร์ ไปเปิดโลก ไปตอนนี้ใช้จ่ายน้อยกว่า และอย่าเสียดายเงิน เราไปทำงาน ไม่ใช่ไปเที่ยว

18. ค่าเงินบาทเป็นสิ่งที่ต้องตามข่าวมากหน่อยเพราะผลกระทบเป็นวงกว้างมากจริงๆ อย่าคิดว่าเราไม่ได้ค้าขายกับต่างประเทศแล้วเราจะไม่ได้รับผลกระทบ

19. ผลทางอ้อมที่มาหาเรา คือจากเงินที่เราทุกคนได้รับจากค่าจ้าง เงินเดือน จากงานที่ทำ ถ้าบริษัท โรงงานได้เงินน้อยลง เค้าจะเอาที่ไหนมาจ่ายเราเท่าเดิมได้นานๆ

20. เรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดกับประเทศไทยที่แรกในโลก เรามีตัวอย่างมากมายกับประเทศที่พังเพราะค่าเงินเปลี่ยนแปลง

มองแล้วก็ได้แต่หวังว่า จะไม่เกิดขึ้นกับประเทศไทยจริงๆ



Cr.Trickoftrade

0 Share