เมื่อ'ทรัมป์'ไม่ปลื้ม'ปธ.เฟด': ถึง ณ ชั่วโมงนี้ ต้องบอกว่า"ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ" อยากจะเร่งรัดปลด "นายเจอโรม โพเวลล์" ออกจากตำแหน่ง"ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ" หรือ"เฟด" เสียโดยไวกันเข้าให้แล้วล่ะ!
เพราะนับแต่ก้าวขึ้นนั่งเก้าอี้ของ"บิ๊กเฟด" ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็น ต้นมา ก็สร้างความขุ่นใจให้แก่ประธานาธิบดีทรัมป์อยู่เนืองๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่อง "การขยับปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย"ที่นายโพเวลล์ มักจะ "เปิดไฟเขียว" ให้"ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ" หรือ "เอฟโอเอ็มซี" ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นกันได้อย่างฉลุย
โดยนับตั้งแต่นายโพเวลล์ ซึ่งมีดีกรีทางการศึกษาด้านกฎหมายและรัฐศาสตร์ ทั้งจากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันและจอร์จทาวน์ ก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่ง "ประธานเฟด" เมื่อเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา ก็พา "ดอกเบี้ยนโยบาย"ของสหรัฐฯ ขยับอัตราขึ้นไปแล้ว 3 ครั้งรวด
เริ่มจากเมื่อวันที่ 21 มีนาคม ขึ้นจากร้อยละ 1.50 สู่ร้อยละ 1.75 ตามมาด้วยครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ก็ขยับขึ้นอีกร้อยละ 0.25 หรือถ้าพูดอย่างภาษาบ้านๆ ไทยเรา ก็คือ "สลึงหนึ่ง" ก็ขึ้นจากร้อยละ 1.75 สู่ร้อยละ 2.00
และครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 26 กันยายน ก็ปรับขึ้นอีกร้อยละ 0.25 จากร้อยละ 2.00 สู่ร้อยละ 2.25
ทั้งนี้ การขยับปรับเพิ่ม ก็มีขึ้นท่ามกลางกระแสเสียงวิจารณ์เชิงท้วงติงจากประธานาธิบดีทรัมป์ ผู้นำฝ่ายบริหารที่เป็นผู้สถาปนา เสนอชื่อแต่งตั้งนายโพเวลล์ให้มาดำรงตำแหน่ง "ประธานเฟด"มากับมือ แต่ปรากฏว่า นายโพเวลล์ ก็หาได้ทำตัวเป็น "ประธานเฟดในคาถาของทรัมป์" คือ เชื่อฟังต่อประธานาธิบดีทรัมป์ก็หาไม่
โดยนอกจากเมินต่อกระแสเสียงวิจารณ์เชิงท้วงติงข้างต้น ก็ยังลุยเดินหน้า "สวนกระแส" ต่อนโยบายของผู้นำที่ไม่ต้องการดอกเบี้ยอยู่ในอัตราสูง ด้วยการขยับปรับเพิ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยกันเสียนี่!
สร้างความเกรี้ยวกราดโกรธาให้แก่ประธานาธิบดีทรัมป์เป็นอย่างยิ่ง ถึงขนาดออกมากล่าวตำหนิประณามถ้อยคำที่รุนแรงว่า "เป็นบ้า" ไปแล้วที่ขึ้นดอกเบี้ยกันบ่อยๆ สำหรับเฟดภายใต้การกุมบังเหียนของนายโพเวลล์รายนี้
พร้อมกันนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ซึ่งได้กล่าวตำหนิประณามเฟดในครั้งกระนั้นเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาก็ยังระบุด้วยว่า การขึ้นอัตราดอกเบี้ยบ่อยๆ นั้น ถือเป็น "ความผิดมหันต์"แถมยังเป็นการแสดงถึง "ความก้าวร้าวในทางเศรษฐกิจ" จนส่งผลให้ตลาดต้องเผชิญกับภาวะขาดสภาพคล่อง
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะปลดนายโพเวลล์ ออกจากประธานเฟดหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบจากประธานาธิบดีทรัมป์ว่า เขายังไม่มีความคิดเช่นนั้นมีเพียงแค่รู้สึกผิดหวังต่อการทำงานของนายโพเวลล์
ล่าสุด เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาประธานาธิบดีทรัมป์ ก็ได้ออกมาตำหนิวิจารณ์กันอย่างแรงๆ หรือที่เรียกว่า"สับเละ" ต่อนายโพเวลล์กันอีกระลอก
โดยประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวว่านายโพเวลล์สร้างความเสียหายให้แก่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จากการที่ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นหลายครั้งตลอดช่วงระยะเวลาที่เขาดำรงตำแหน่งประธานเฟด จนคุกคามต่อการขยายตัวเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และดูเหมือนว่า ประธานเฟดรายนี้จะสนุกสนานกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ยังได้เปรียบเทียบระหว่างสมัยการเป็นผู้นำสหรัฐฯ ของเขากับประธานาธิบดีบารัก โอบามา ครั้งอดีตด้วยว่า แตกต่างสวนทางกันอย่างสิ้นเชิงสำหรับการดำเนินงานของเฟดในเวลานี้ โดยที่ในสมัยที่ของเขาเฟดกลับมีนโยบายปรับขึ้นดอกเบี้ย แตกต่างจากสมัยของอดีตประธานาธิบดีโอบามา ที่ดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำ ด้วยการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ร้อยละ 0 หรือ 0 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ ว่ากันในส่วนของการเปรียบเทียบการดำเนินนโยบายของเฟดข้างต้นเมื่อช่วงที่นายทรัมป์ ยังอยู่ในสถานะผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีของพรรครีพับลิกัน ก็ได้กล่าวในระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งว่า การที่เฟดภายในการนำของ "ประธานฯ เจเน็ต เยลเลน" ครั้งกระนั้น ซึ่งได้ดำเนินนโยบายดอกเบี้ยต่ำ ก็ไม่ผิดอะไรกับการไป "สร้างคะแนนนิยม" ให้แก่ประธานาธิบดีโอบามาในขณะนั้น เพราะส่งผลทำให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในภาวะไม่สูง คุมได้ไม่ยากนั่นเอง และว่า การดำเนินนโยบายของเฟดครั้งกระนั้นอยู่ภายใต้แรงจูงใจทางการเมืองในช่วงดังกล่าว
ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังได้ตั้งข้อสังเกตในการดำเนินนโยบายของเฟดต่อการบริหารประเทศของเขาด้วยว่า ดูเหมือนว่า ทุกครั้งที่รัฐบาลภายใต้การนำของเขาจะทำสิ่งใดที่มีความสำคัญ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ปรากฏว่า ทางเฟดภายใต้การนำของนายโพเวลล์ ก็มักจะปรับเพิ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปเสียทุกที
ผู้นำสหรัฐฯ คนที่ชื่อนายทรัมป์ยังเปิดใจด้วยว่า รู้สึกเสียใจที่ได้เสนอชื่อนายโพเวลล์ ให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟด ซึ่งเขาจะดำรงตำแหน่งอยู่ในวาระ4 ปี โดยแรกที่เมื่อเขาดำรงตำแหน่งใหม่ๆเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ดูเหมือนว่า เขาจะนิยมชื่นชอบให้ดอกเบี้ย อยู่ในอัตราต่ำ แต่ปรากฏว่า ถึง ณ เวลานี้ไม่ใช่แล้ว ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบันกล่าว
บรรดานักวิเคราะห์แสดงทรรศนะว่า ทุกครั้งที่เฟดขยับปรับเพิ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ย ก็จะส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ให้ลดความร้อนแรงลง พร้อมๆ กับทำให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับสกุลเงินอื่น รวมถึงทำให้อัตราภาวะเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นตามมา
ในส่วนการที่ประธานาธิบดีทรัมป์จะจัดการอย่างไรกับนายโพเวลล์นั้นเหล่านักวิเคราะห์ บอกว่า คงไม่สามารถดำเนินการใดๆได้ เพราะกฎหมายบัญญัติเอาไว้ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สามารถปลดได้เพียงระดับ "ประธานเฟดสาขาต่างๆ" เท่านั้น แต่ไม่สามารถปลด"ประธานเฟดใหญ่" ได้ ดังนั้น ใช้ได้แต่เพียง "เวลา" คือ ทำได้แต่เพียง "รอ"ให้นายโพเวลล์ หมดวาระไปตามระเบียบ ซึ่งเหลือเวลาถึง 3 ปีกว่าๆ
คอลัมน์ จับอุณหภูมิโลก
Source: สยามรัฐ
- Trump says he ‘maybe’ regrets picking Jerome Powell as Fed chief
https://www.pressherald.com/…/trump-says-he-maybe-regrets-…/
- สหรัฐเผย GDP Q3/61 โต 3.5% สูงกว่าคาดการณ์ :https://www.ryt9.com/s/iq28/2905751
—————————————— ———————————————
ติมตามข่าวสารการเงิน เศรษฐกิจรอบโลกได้ที่ คลิ๊ก
เข้ากลุ่มนักเทรดใน Facebook คลื๊ก นี้