ธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2.25–2.50 ด้วยมติเอกฉันท์ สรุปสาระสาคัญดังนี้
1. US Economy & Labor Market:
คณะกรรมการ FOMC เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ท่ามกลางภาคการจ้างงานยังคงมีความแข็งแกร่งและอัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ ภาคการใช้จ่ายครัวเรือนและภาคการลงทุนชะลอตัวลงในไตรมาสที่ 1 ในระยะ medium term คณะกรรมการประเมินว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งยังคงเป็น “most likely outcome”
2. Inflation:
คณะกรรมการ FOMC เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไป และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานปรับลดลงสู่ระดับต่ำกว่าร้อยละ 2 นอกจากนี้ คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในระยะยาว ในลักษณะ survey-based เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่คาดการณ์ในลักษณะ market-based ยังคงอยู่ในระดับต่ำ ทั้งนี้ คณะกรรมการคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มอยู่ในระดับใกล้เคียงกับระดับเป้าหมายที่ร้อยละ 2 ในระยะ medium term
3. Risks:
คณะกรรมการ FOMC ประเมินว่าแรงกดดันเงินเฟ้อมีจำกัด ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินโลก ณ ปัจจุบัน
4. Monetary Policy
คณะกรรมการตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 2.25–2.50 ด้วยมติเอกฉันท์ ภายใต้มุมมองด้านภาวะการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อ ทั้งในรูปแบบ realized และ expected ที่เป็นไปตามการคาดการณ์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ภาคการจ้างงานแข็งแกร่งต่อเนื่อง และผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อปรับสูงขึ้นสู่ระดับเป้าหมาย นอกจากนี้ คณะกรรมการตัดสินใจปรับลด Interest Rate on Excess Reserve (IOER) ลง 5 bps สู่ร้อยละ 2.35 เพื่อคง Fed funds rate ภายในกรอบเป้าหมาย ระหว่างร้อยละ 2.25–2.50
สำหรับในระยะต่อไป ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะดำเนินนโยบายอย่าง “patient” ภายใต้แรงกดดันเงินเฟ้อที่จำกัด โดยการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะยังคงขึ้นอยู่กับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในอนาคต ทั้งภาคการจ้างงาน แรงกดดันและการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อรวมถึงภาวะการเงินและปัจจัยจากต่างประเทศ
ในช่วง press conference นาย Jerome Powell, Federal Reserve Chairman แสดงมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ท่ามกลางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจประเทศจีนและความเสี่ยงจากสถานการณ์ Brexit ที่ปรับลดลง พร้อมคาดว่าภาคการใช้จ่ายครัวเรือนและการลงทุน มีแนวโน้มฟื้นตัวและสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะต่อไป นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ปรับลดลง “unexpectedly” ได้รับแรงกดดันจากปัจจัยชั่วคราว (“transitory factors”) เช่น จากสินค้ากลุ่ม apparel และ portfolio management service โดยอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับเป้าหมายที่ร้อยละ 2 สอดคล้องกับการคำนวณจาก trimmed–mean measure ท่ามกลาง moderate financial condition ประกอบกับภาวะการจ้างงานและการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ทั้งนี้ นาย Powell ยืนยันเหตุผลการปรับลด IOER สอดคล้องกับใน statement โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจตัดสินใจปรับลด/เพิ่ม IOER ตามสมควรในอนาคต เพื่อคง Fed funds rate ภายในกรอบเป้าหมาย พร้อมกล่าวเสริมว่าการปรับลด IOER มิใช่เครื่องบ่งชี้ถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะต่อไป และปัจจุบันคณะกรรมการยังไม่เห็นถึงความจำเป็นในการปรับเพิ่ม/ลด อัตราดอกเบี้ยนโยบายแต่อย่างใด ในส่วนของนโยบายด้าน balance sheet ไม่เปลี่ยนแปลงจากการประชุมครั้งก่อนหน้า โดยนาย Powell กล่าวเสริมว่าคณะกรรมการจะมีการหารือเรื่อง duration และ repo facility ในการประชุมครั้งต่อๆไป
Source: BoTSS
เพิ่มเติม
- Here’s the one word from Jerome Powell that has people raising their eyebrows: https://www.cnbc.com/…/heres-the-one-word-from-jerome-powel…
- FOMC statement: https://www.federalreserve.gov/…/fil…/monetary20190501a1.pdf