🔥10 คำถามสำคัญที่สุดในการสร้างระบบการลงทุน
✨เป็น 10 คำถามที่นักลงทุนควรจะตอบให้ได้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มลงทุน หากนักลงทุนตอบได้ครบถ้วนและชัดเจนในทุกกรณี นั่นแปลว่าระบบของนักลงทุนเริ่มถูกจัดสรรไว้ดีแล้ว
✅1. หุ้นแบบไหนที่คุณจะซื้อ?
จะใช้ปัจจัยหรือหลักการใดในการคัดเลือกหุ้นเพื่อการลงทุน งบการเงิน/ลักษณะธุรกิจ/อุตสาหกรรม/การเติบโต ควรมีภาพที่ชัดเจนในใจว่าหุ้นอะไรเอา อะไรไม่เอา ข้อนี้สำคัญมาก ควรรู้จุดอ่อนตัวเองและตั้งกฎเกณฑ์ที่จะไม่เล่นเกมส์ที่ไม่ถนัดเพื่อขจัดโอกาสจะขาดทุนตั้งแต่ต้น
✅2. เมื่อไหร่จะซื้อ?
หากเป็นนักลงทุนแนวพื้นฐาน จะใช้หลักการไหนในการประเมินมูลค่า หากเป็นนักลงทุนแนวเทคนิคจะใช้อินดิเคเตอร์ใดในการตัดสินใจเข้าซื้อ จุดนี้เป็นจุดที่นักลงทุนผิดพลาดกันเยอะมากที่สุด ดังนั้น สร้างเหตุผลในการตัดสินใจตั้งแต่ต้น
✅3. เมื่อไหร่จะถือ?
แปลได้อีกอย่างหนึ่งว่าเราจะถือหุ้นนานเท่าไหร่ ควรใช้ปัจจัยใดเป็นสิ่งตัดสินใจ การคิดตั้งแต่ต้นว่าจะถืออย่างไรจะทำให้เราถือหุ้นได้เหมาะสมและถูกที่ถูกเวลามากขึ้น
✅4. เมื่อไหร่จะขาย?
ควรคิดไว้ตั้งแต่ตอนซื้อเลยว่าปัจจัยใดบ้างที่ทำให้เราตัดสินใจขายหุ้นนี้ออกไป การวางระบบซื้อถือขายถือเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้นักลงทุนอยู่รอดได้ในระยะยาวเลยทีเดียว
✅5. พอร์ตจะมีหุ้นกี่ตัว?
พอร์ตที่ดีควรมีการโฟกัสและการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม สิ่งสำคัญคือเราควรจัดพอร์ตให้มากพอแต่อยู่ในขอบเขตที่สามารถติดตามอย่างใกล้ชิดไหว
✅6. คุณจะถือหุ้นตัวละกี่เปอร์เซ็นต์?
นักลงทุนควรมีเกณฑ์ในใจว่าหากหุ้นดีมากจะซื้อสูงสุดไม่เกินกี่เปอร์เซ็นต์และถ้าหุ้นตัวที่ชอบน้อยลงมาจะซื้อไม่ต่ำกว่ากี่เปอร์เซ็นต์ การตั้งเพดานบนไว้จะช่วยลดความเสี่ยงจากการทุ่มลงทุนได้ และการตั้งเพดานล่างจะช่วยลดความเสี่ยงจากการถือหุ้นในสัดส่วนที่น้อยจนขี้เกียจติดตาม
✅7. คุณจะถือเงินสดกี่เปอร์เซ็นต์?
เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้การจัดสัดส่วนหุ้น การจัดสัดส่วนเงินสดจะช่วยให้เรารักษาระดับความเสี่ยงและเหลือเงินไปซื้อหุ้นตอนเกิดวิกฤตได้ โดยทั่วไป หากเรามีความสามารถในการรับความเสี่ยงได้มากหรือยังหาเงินมาเติมพอร์ตได้เรื่อยๆ เราอาจถือเงินสดในสัดส่วนที่น้อย แต่ในกรณีที่เรารับความเสี่ยงได้ไม่มากแล้ว เราควรจะคงสัดส่วนเงินสดในสัดส่วนที่สูง หรือหันนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าหุ้นต่อไป
✅8. คุณจะจัดสรรความมั่งคั่งไปในสินทรัพย์อย่างไร?
ในสัดส่วนความมั่งคั่งรวม 100% นักลงทุนจะจัดสรรความมั่งคั่งอย่างไรบ้าง หากเป็นคนที่ลงทุนในหุ้นเป็นหลัก อาจจะมีการแบ่งสัดส่วนแค่เงินสดกับหุ้น แต่ในกรณีที่เราต้องการกระจายความเสี่ยงไปในสินทรัพย์ที่หลากหลาย เราควรมีการวางแผนว่าเราจะแบ่งปันเงินไปแต่ละส่วนอย่างไร เช่น จะไปซื้อกองทุนรวมกี่เปอร์เซ็นต์ เก็บไว้ในอสังหาริมทรัพย์กี่เปอร์เซ็นต์ การบริหารความมั่งคั่งเป็นภาพรวมจะทำให้เราบริหารความเสี่ยงแบบเป็นองค์รวมได้
✅9. คุณจะบริหารเงินเข้าออกจากพอร์ตอย่างไร?
การจะทำให้พอร์ตโตได้ในระยะยาวจะต้องมีการเติมทุนเข้าไปเพื่อสร้างผลตอบแทนให้มากขึ้น เราควรมีแผนการลงทุนที่ชัดเจนว่าจะสะสมเพิ่มเดือนละเท่าไหร่ ปีละเท่าไหร่ หากได้เงินก้อนใหม่มาจะแบ่งมาลงทุนอย่างไร หรือเงินปันผลที่ได้จากการลงทุนจะนำมาลงทุนซ้ำหรือใช้จ่าย ยิ่งพอร์ตใหญ่มากเท่าไหร่ พอร์ตก็จะโตได้มากขึ้นเท่านั้น นักลงทุนจึงควรวางแผนหาเงินเติมพอร์ตตลอดเวลาและลดการนำเงินจากพอร์ตออกไปใช้จ่ายเพื่อเพิ่มการสร้างดอกเบี้ยทบต้นให้สูงที่สุด
✅10. คุณหวังผลตอบแทนปีละเท่าไหร่?
เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมากไม่แพ้ระบบการซื้อถือขายเลย เพียงแต่นักลงทุนจำนวนมากมักไม่ให้ความสนใจในการสร้างระบบให้ดี นักลงทุนที่จะสำเร็จได้ในระยะยาวควรตั้งผลตอบแทนที่คาดหวังอยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อทำให้เราดำรงอยู่ในเกมที่ไม่เสี่ยงต่อการสูญเสียเงินต้นจนเกินไป โดยทั่วไป แนะนำอยู่ที่ระดับ 10 – 15 % โดยเฉลี่ยในระยะยาวเท่านั้น การเห็นภาพผลตอบแทนที่คาดหวังได้ชัดเจนนั้นจะไม่กระตุ้นให้เรารับความเสี่ยงที่มากขึ้นซึ่งอาจจะนำมาซึ่งความล้มเหลวในที่สุด
—————————————— ——————————————
ติมตามข่าวสารการเงิน เศรษฐกิจรอบโลกได้ที่ คลิ๊ก
เข้ากลุ่มนักเทรดใน Facebook คลื๊ก นี้