บรรดานักลงทุนแห่ย้ายเงินทุนกลับไปในตลาดเกิดใหม่ของเอเชีย และพื้นที่อื่นๆ โดยหวังว่าสหรัฐจะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ย และบรรลุข้อตกลง การค้ากับจีน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจำนวนมากยังคงกระวนกระวาย

เนื่องจากการเจรจาระหว่างสหรัฐกับจีนแทบไม่มีแนวโน้มที่จะได้ผลสำเร็จขนาดนั้น

ข้อมูลจากบริษัทควิก-แฟคท์เซต ระบุว่า นับตั้งแต่เริ่มต้นปีนี้ มีเงินทุนสุทธิจำนวน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ไหลเข้าเศรษฐกิจเกิดใหม่ ผ่านกองทุนเปิดที่ จดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (อีทีเอฟ) สหรัฐ ตัวเลขดังกล่าวยังเห็นได้ชัดเจนในบรรดากองทุนอีทีเอฟสหรัฐที่เชี่ยวชาญข้อมูลในจีน

เมื่อเดือนม.ค. บรรดานักลงทุน ต่างชาติซื้อหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดเซี่ยงไฮ้และเสิ่นเจิ้นผ่านฮ่องกง มูลค่าสุทธิ 6.07 หมื่นล้านหยวน นับเป็นการซื้อ รายเดือนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และยังเพิ่มขึ้น 73% จากช่วงเดียวกันของ ปีก่อนหน้า

การซื้อสุทธิขนาดใหญ่ยังเกิดขึ้นต่อเนื่องถึงเดือนนี้ และในเดือนครึ่งแรกของปี เงินไหลเข้าสุทธิสู่ตลาดหุ้นจีนแตะที่ 9.9 หมื่นล้านหยวน แซงหน้าตัวเลขเฉลี่ยรายเดือน ของปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ 2.45 หมื่นล้านหยวน

ในเดือนพ.ค.-ก.ค. ปีที่แล้ว มีเงินไหลออกสุทธิจากตลาดเกิดใหม่จำนวน 1.14 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนหนึ่งได้รับแรงกระตุ้นจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และวิกฤติค่าเงินในอาร์เจนตินาและตุรกี

อย่างไรก็ดี ความเชื่อมั่นของตลาดกลับมาสดใสอย่างรวดเร็วในช่วงต้นเดือนม.ค. ที่ผ่านมา หลังเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดส่งสัญญาณว่าจะชะลอ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้

ขณะที่การลงทุนในตลาดเกิดใหม่แตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีมาอยู่ที่ 1.01 หมื่นล้าน ดอลลาร์ในเดือนม.ค. และจนถึงขณะนี้ยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตอีกในเดือนนี้

"ผลตอบแทนไหลเข้าสู่เศรษฐกิจเกิดใหม่เป็นหลักฐานชัดเจนว่า กองทุนต่างๆ กลับมาสู่ตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรแล้ว" ทาคาฟูมิ โฮริอูจิ นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารมิซูโฮ กล่าว

ดัชนีหุ้นในบรรดาเศรษฐกิจเกิดใหม่และประเทศในเอเชีย ต่างเพิ่มขึ้นเกือบทั่วทุกพื้นที่ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ คอมโพซิต ทะยาน 10% นับตั้งแต่เริ่มต้นปีนี้ ฟื้นตัวจากที่เคยร่วง 25% ในปีก่อน ขณะที่ดัชนีตลาดเกิดใหม่เอ็มเอสซีไอ เพิ่มขึ้น 6% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

นอกจากนั้น ค่าเงินในบรรดาตลาดเกิดใหม่ยังแข็งค่าขึ้น เช่นเงินหยวนซึ่งอ่อนค่าแตะระดับต่ำที่สุดในรอบ 10 ปีเมื่อปีที่แล้ว กำลังแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐมีแนวโน้มที่จะทำให้เงินทุนไหลออกและทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น แม้บรรดาเศรษฐกิจเกิดใหม่ถูกบีบให้ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อปกป้องค่าเงินของตนในปี 2561 และมีแนวโน้มมากขึ้น ที่จะผ่อนคลายนโยบายทางการเงินเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ปัจจุบัน เฟดเรียกร้องให้ระงับการปรับขึ้น ดอกเบี้ยเป็นการชั่วคราว

เมื่อต้นเดือนนี้ พอล คิตนีย์ หัวหน้า นักกลยุทธ์หุ้นฝ่ายการวิจัยเอเชียแปซิฟิกของบริษัทไดวะ แคปิตัล มาร์เก็ตส์ในฮ่องกง แนะนำว่า นักลงทุนควรหันไปให้ความสำคัญกับหุ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น และว่าฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียไม่มีความจำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกต่อไป

ผู้ค้าหลักทรัพย์รายหนึ่งในฮ่องกง เผยว่า นอกจากแนวโน้มที่ผ่อนคลายลงของเฟดแล้ว หลายฝ่ายยังมองว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนน่าจะเสร็จสิ้นพร้อมกับการบรรลุข้อตกลง

ตลาดหลายแห่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากความตึงเครียดทางการค้าเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจาก 2 เศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลกต่างออกมาตรการเก็บภาษีตอบโต้กันไปมา

รัฐบาลวอชิงตันและปักกิ่งได้กำหนดกรอบการเจรจา 90 วันเมื่อเดือนธ.ค. ที่ผ่านมา แต่กลับขจัดความแตกตื่นในตลาดไม่ได้อย่างสิ้นเชิง เนื่องจากความเชื่อมั่นนักลงทุนถูกสั่นคลอนซ้ำหลายครั้ง จากรายงานข่าวที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับความคืบหน้าของการเจรจาดังกล่าว

มีกระแสคาดการณ์มากขึ้นว่า 2 ยักษ์เศรษฐกิจโลกจะบรรลุข้อตกลงกันได้ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ส่งสัญญาณว่าเต็มใจที่จะประนีประนอมกับจีน เช่น ขยายเส้นตาย การเจรจาออกไปจากเดิมซึ่งกำหนดไว้ในวันที่ 1 มี.ค.นี้

แม้เศรษฐกิจจีนอยู่ในช่วงชะลอตัว แต่ตลาดเงินต่างหวังว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลปักกิ่งจะเริ่มเห็นผลในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

ในขณะที่หุ้นในฮ่องกงและไต้หวันกำลังเปราะบางต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในจีน แต่หุ้นเหล่านี้กำลังฟื้นตัวขึ้นจากภาวะตกต่ำในปีที่แล้ว

หนึ่งในสัญญาณสำคัญคือบรรดาบริษัทจีนซึ่งปรับลดคาดการณ์รายได้ของตนอยู่บ่อยครั้ง นักลงทุนรายหนึ่งในฮ่องกง กล่าวว่า ขณะนี้ราคาหุ้นกำลังทะยานขึ้นอย่างมีความหวัง แม้จะยังขาดแรงจูงใจในการซื้อหุ้นรอบใหม่ก็ตาม

ในอดีต สภาพคล่องที่มากเกินไปซึ่งเกิดจากการผ่อนคลายทางการเงิน ส่งผลให้เกิดภาวะฟองสบู่ และในขณะที่การพักปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดกระตุ้นให้มีเงินไหลเข้าเศรษฐกิจเกิดใหม่มากขึ้น ความเสี่ยง ต่อราคาสินทรัพย์จะยังคงเพิ่มขึ้น ต่อไป

Source: กรุงเทพธุรกิจ

- Money returns to Asian emerging markets as fears fade:https://asia.nikkei.com/…/Money-returns-to-Asian-emerging-m…

0 Share