องค์การบริหารการบิน แห่งสหรัฐ (เอฟเอเอ) ตัดสินใจเลื่อน การอนุมัติเครื่องบินโบอิง แม็กซ์ ของบริษัท โบอิง รวมทั้งเลื่อนอนุมัติเส้นทางบินใหม่ๆ เช่น เส้นทางบินสู่รัฐฮาวายของสายการบิน เซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ เป็นการชั่วคราว เนื่องจาก ผลกระทบของภาวะชัตดาวน์ ซึ่งสถานการณ์ ดังกล่าวส่งผลให้การดำเนินธุรกิจต้องล่าช้า ออกไปด้วยเช่นกัน
สายการบินเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ เปิดเผยว่า แผนการที่จะเปิดให้บริการ เส้นทางการบินสู่ฮาวายในช่วงต้นปีนี้ ถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากเอฟเอเอ ซึ่งเป็นองค์กรที่กำกับดูแลการอนุญาตเส้นทาง การบิน ได้หยุดการดำเนินงานชั่วคราว โดย เซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ จะยังไม่มีการกำหนดการ ใดๆ เกี่ยวกับเที่ยวบินไปยังฮาวาย จนกว่า จะได้รับอนุญาตตามความจำเป็น
นอกจากนี้ สายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ส เปิดเผยว่า สายการบินได้รับ การส่งมอบเครื่องบินรุ่นโบอิง แม็กซ์ 8 จากบริษัทโบอิงจำนวน 2 ลำ แต่เครื่องบิน ยังคงอยู่ที่เมืองทุลซา รัฐโอกลาโฮมา เพื่อรอการอนุมัติจากเอฟเอเอ
ภาวะที่หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ ต้องปิดการดำเนินงานชั่วคราวเนื่องจาก ขาดงบประมาณ (ชัตดาวน์) ดำเนิน ล่วงเข้าสู่วันที่ 24 แล้วหากนับถึงวานนี้ (15 ม.ค.) เนื่องจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และแกนนำพรรคเดโมแครต ในสภาคองเกรสยังคงไม่สามารถตกลง กันได้ในประเด็นการจัดสรรงบประมาณ สร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกวงเงิน กว่า 5.7 พันล้านดอลลาร์
ด้านประธานาธิบดีทรัมป์ ปฏิเสธ ที่จะทำตามคำแนะนำของนายลินด์ซีย์ เกรแฮม วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน ที่เรียกร้องให้เปิดทำการหน่วยงาน ของรัฐบาลชั่วคราวเพื่อเปิดทางให้มีการ เจรจาเรื่องงบประมาณสร้างกำแพงกั้น ชายแดนเม็กซิโก พร้อมทั้งยืนยันว่า ยังไม่มีความต้องการจะประกาศภาวะ ฉุกเฉินแห่งชาติ ซึ่งการประกาศภาวะ ฉุกเฉิน จะทำให้ปธน.ทรัมป์ มีอำนาจ ออกกฎหมายพิเศษโดยไม่ต้องขอการ อนุมัติการสร้างกำแพงจากสภาคองเกรส โดยใช้งบประมาณที่มีการจัดสรรไว้แล้ว สำหรับกองทัพ
สถานการณ์ชัตดาวน์ในสหรัฐได้ยืดเยื้อ มาจนเข้าสู่วันที่ 24 ถือเป็นการทำสถิติ ยาวนานที่สุดเป็นประวัติการณ์ หลังจาก ที่สหรัฐต้องเผชิญกับภาวะชัตดาวน์ในสมัย อดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน เป็นเวลา 21 วัน
ผลกระทบจากภาวะชัตดาวน์ เริ่ม ปรากฏชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เมื่อพนักงานของ หน่วยงานรัฐราว 800,000 คน ไม่ได้รับเช็ค จ้างการทำงานของพวกเขา โดยเจ้าหน้าที่ รายหนึ่ง จากกระทรวงความมั่นคงแห่ง มาตุภูมิสหรัฐ ซึ่งออกมาร่วมเดินขบวน ประท้วงไปยังทำเนียบขาวเพื่อเรียกร้อง ให้รัฐบาลยุติภาวะชัตดาวน์ ร่วมกับพนักงาน รัฐรายอื่นๆอีกหลายร้อยคน เปิดเผยว่า "สถานการณ์ตอนนี้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง มีคนจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับเงินค่าจ้าง และหลายครอบครัวก็กำลังเผชิญความ ยากลำบาก ผมอยากจะบอกว่าเจ้าหน้าที่ ในหน่วยงานรัฐทุกคนพร้อมที่จะทำงาน และพวกเขาก็ไม่ควรต้องถูกดึงเข้ามาอยู่ ท่ามกลางความขัดแย้งเช่นนี้"
นายคริสโตเฟอร์ กาลด์เยรี ผู้ช่วย ศาสตราจารย์จากวิทยาลัยเซนต์แอนเซลม์ เปิดเผยว่า มีการบริการของรัฐหลายส่วน ที่ได้รับผลกระทบ และหากสถานการณ์ ชัตดาวน์ยังยืดเยื้อยาวนานออกไปเรื่อยๆ เราจะได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็นกันมากขึ้น
ที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ ประกาศผ่านทาง ทวิตเตอร์ว่า "มีวิกฤติการณ์ด้านมนุษยธรรม ที่ใหญ่หลวงเกิดขึ้นบริเวณชายแดนสหรัฐ- เม็กซิโก กำแพงหรือแผงเหล็กกั้นชายแดน ระหว่างทั้ง 2 ประเทศนั้นจำเป็นต่อการรักษา ความปลอดภัยตามแนวชายแดน และจะช่วย ป้องกันอาชญากรรม, มิจฉาชีพ, การค้ามนุษย์ รวมทั้งยาเสพติด ซึ่งหากไม่มีกำแพงเหล่านั้น ประเทศของเราก็จะไม่มีความปลอดภัย"
ด้านนางแนนซี เพโลซี แกนนำพรรค เดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และ นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภา สหรัฐ ให้มุมมองกรณีสร้างกำแพงที่ปธน. ทรัมป์ เรียกร้องมาว่า มีค่าใช้จ่ายมากเกินไป ไม่สามารถแก้ปัญหาดังที่ปธน.ทรัมป์กล่าวอ้างมาได้จริง และขัดต่อหลักศีลธรรม ทั้งยังระบุว่าข้อเสนอดังกล่าวของปธน. ทรัมป์ เป็นภัยคุกคามทางการเมือง พร้อมทั้ง เรียกร้องให้เปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีอย่าง โดรนและเซ็นเซอร์ ในการเสริมสร้าง ความปลอดภัยตามแนวชายแดนแทนการ สร้างกำแพงตามที่ปธน.ทรัมป์ ต้องการ
Source: กรุงเทพธุรกิจ
- F.A.A. Recalls Workers to Address Air Safety Concerns
https://www.nytimes.com/…/faa-recalls-air-safety-shutdown.h…