สื่อต่างประเทศรายงานว่า การก่ออาชญากรรมทั่วโลกได้ลดน้อยลงในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นับตั้งแต่ประเทศต่างๆ ดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ และสั่งให้ประชาชนอยู่กับบ้านเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ แม้แต่ในภูมิภาคที่เคยมีระดับความรุนแรงสูงสุดนอกเขตสงครามนั้น ก็พบว่ามีประชาชนถูกฆาตกรรมน้อยลง และมีการปล้นทรัพย์ลดลงด้วย โดยเฉพาะในลาตินอเมริกา และแอฟริกาใต้ต่างก็รายงานถึงการก่ออาชญากรรมที่ลดลงนับตั้งแต่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด
เมืองชิคาโกในมลรัฐอิลลินอยส์ของสหรัฐ ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่มีปัญหาด้านความรุนแรงมากที่สุดของสหรัฐนั้น มีรายงานการก่ออาชญากรรม ลดลง 10% หลังจากไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด ขณะที่การจับกุมคดียาเสพติด ร่วงลงถึง 42% นับตั้งแต่มีการล็อกดาวน์เมืองเป็นเวลาหลายสัปดาห์ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ส่วนในนครนิวยอร์คซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น มีการก่ออาชญากรรมในเดือนมี.ค. ลดลง 12% จากเดือนก.พ. และในลอสแอนเจลิสนั้น การก่ออาชญากรรมซึ่งนับจนถึงสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 มี.ค.นั้น ลดลงถึง 30%
Source: อินโฟเควสท์