ธนาคาร HSBC ของอังกฤษ ( “ฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งแบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น” หรือ Hong Kong and Shanghai Banking Corporation) เป็นธนาคารข้ามชาติ ขนาดใหญ่ที่มีพนักงาน 260,000 คน มีสำนักงานใน 75 ประเทศและลูกค้ากว่า 54 ล้านคน
นับจากวันแรกสุดที่ถูกก่อตั้งในปี 1865 ธนาคารแห่งนี้มีส่วนเกี่ยวข้องใน “การค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ” มันก่อตั้งขึ้นในชัยชนะของอังกฤษใน “สงครามฝิ่น” ต่อจีน ( ระหว่างปี 1839-1842 และ 1856-1860) สงครามทั้งสองนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของ “จักรวรรดิอังกฤษ” เป็นเวลาหนึ่งศตวรรษครึ่งของการทำให้ประเทศจีนอ่อนแอลงเรื่อยๆ
จากสงครามฝิ่นจักรวรรดิอังกฤษบังคับให้จีนยอมรับการนำเข้าฝิ่นที่มาจากประเทศอินเดีย จีนพยายามที่จะต่อต้านการค้านี้ แต่อาวุธของอังกฤษมีมากมาย เช่นที่ได้รับการสนับสนุนจาก “อเมริกา” ยิ่งทำให้แข็งแกร่งขึ้น อังกฤษก่อตั้งอาณานิคมขึ้นที่ฮ่องกงในปี 1865 ซึ่งธนาคาร HSBC นี้เองถูกสร้างขึ้นโดยพ่อค้าชาวสก็อตแลนด์ที่มีความเชี่ยวชาญด้าน “การค้าฝิ่น” ซึ่งสิ่งนี้เป็นพื้นฐานของการค้าของเกาะฮ่องกงกับอินดีส ถึง 70% ( เกาะฮ่องกงจึงเหมือนเด็กที่เติบใหญ่จากการกิน “นมแห่งฝิ่น” มีพ่อเป็นนักค้าฝิ่น เหมือนออสเตรเลียที่มีพ่อเป็นคนคุก )
ณ เวลานี้ประวัติศาสตร์ของธนาคาร HSBC มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับผลประโยชน์ของนโยบายต่างประเทศของอังกฤษและชนชั้นปกครองในเอเชีย , หลังจากปี 1949 และชัยชนะของการปฏิวัติของเหมาในจีนใหญ่และเปลี่ยนประเทศเป็นคอมมิวนิสต์ ทำให้ธนาคาร HSBC ต้องถอยกลับไปตั้งหลักในเกาะฮ่องกงเหมือนเดิมซึ่งยังคงเป็นอาณานิคมของอังกฤษอยู่
ระหว่างปี 1980 และ 1997 ได้มีการพัฒนากิจกรรมไปในอเมริกาและยุโรปแทน และย้ายสำนักงานใหญ่ไปที่ลอนดอนในปี 1993 เพราะมีการคาดว่าจะมีการโอนอำนาจอธิปไตยของฮ่องกงกลับสู่จีนในปี 1997 หลังเช่าครบสัญญาร้อยปี
นอกจากนั้นในปัจจุบัน ธนาคาร เอชเอสบีซี ก็ยังตัดขาดสัมพันธ์ไม่ได้กับการเงินของฮ่องกงและยังคงออกเงิน 70% ของดอลลาร์ฮ่องกง และฮ่องกงยังเป็นหนึ่งในเครือข่ายสำคัญในการดำเนิน “การฟอกเงิน” โดยชนชั้นปกครองของจีนใหม่ด้วย
ธนาคาร เอชเอสบีซี เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางการเงินอื่น ๆ
นอกเหนือจาก “การฟอกเงิน” จากยาเสพติดและการก่อการร้ายแล้ว เอชเอสบีซีได้ถูกดำเนินคดีในกิจการอื่น ที่ได้ “ควบคุมผูกขาดตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา” ( ถูกเปิดเผยในปี 2013 ซึ่งเกี่ยวข้องกับ ตลาดที่มูลค่ามากถึง 5.3 ล้านล้านดอลลาร์ต่อวัน ), และ “กำหนดควบคุมอัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคาร LIBOR” นอกจากนี้ยังมีส่วนร่วมในการขาย “ตราสารอนุพันธ์อัตราดอกเบี้ยที่ไม่เหมาะสม” และเป็น “การฉ้อโกงและการขายผลิตภัณฑ์ประกันที่ไม่เหมาะสมและฉ้อฉล” ให้กับ บริษัท มหาชนทั้งใหญ่เล็กของอังกฤษในราคาต่ำและแทบไม่มีค่า) ในที่สุดก็ขาย “หลักทรัพย์” ที่ได้รับการสนับสนุนด้านสินเชื่อในอเมริกาอย่างหนัก รวมทั้งตั้งใจ “บีบราคาราคาทองคำและเงิน” ให้เป็นไปตามที่ต้องการ ( เปิดเผยในเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ ปี 2014) และ “ช่วยผู้เลี่ยงภาษีรายใหญ่”
Hervé Falciani: เอ็ดเวิร์ด สโนเด็น แห่ง HSBC
Hervé Falciani เป็นชาวอิตาลีเชื้อสายฝรั่งเศส ซึ่งทำงานที่ HSBC ในตำแหน่งวิศวกรระบบระหว่างปี 2006 ถึงปี 2008 ที่เจนีวา สวิสเซอร์แลนด์ ก่อนออกเดินทางและย้ายไปฝรั่งเศส เขาได้คัดลอกเอกสาร 127,000 ฉบับ “ที่เชื่อมโยงธนาคาร HSBC กับการฉ้อโกงและการหลีกเลี่ยงภาษีจำนวนมาก” แต่กลับกลายเป็นว่า “สวิตเซอร์แลนด์” ได้ออกหมาย Hervé Falciani ไปให้ตำรวจสากล Interpol ซึ่งเป็น International Arrest Warrant สำหรับ “ข้อหาการโจรกรรมข้อมูลการธนาคาร” และ “การละเมิดความลับทางการค้าและการจารกรรมทางอุตสาหกรรม” จนถึงตอนนี้สวิตเซอร์แลนด์ยังไม่ได้ดำเนินคดีกับ HSBC เลย
ในช่วงต้นปี 2009 ตำรวจฝรั่งเศสค้นหาบ้านของเขาในเมืองนีซ ที่ซึ่งพวกเขายึดเอกสารสำคัญมาก เป็นรายชื่อ “ผู้หลีกเลี่ยงการเสียภาษีหลายพันคน” เป็นคนฝรั่งเศส 8,231 คน, คนเบลเยียม 800 คน, คนสเปนมากกว่า 600 คน , ชาวกรีกประมาณ 2,000 คน อยู่ใน “รายการของลาการ์ด" ผู้อำนวยการของไอเอ็มเอฟ ถึงหน่วยงานกรีกในปี 2010 รวมถึงชาวเยอรมัน อิตาเลียน และอเมริกันด้วย
จากนั้น Hervé Falciani ยังทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่จากฝรั่งเศส อเมริกา และประเทศอื่น ๆ ซึ่งเขาให้ข้อมูลที่ช่วยในการสืบสวนล่วงหน้าเกี่ยวกับ “การฟอกเงินของ HSBC จากแก๊งค้ายาเม็กซิกันและโคลัมเบีย”
ระหว่างการไปเยือนสเปนในปี 2012 เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่สเปนเขาถูกจับกุมภายใต้หมายจับสากลและสวิตเซอร์แลนด์ร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดน สเปนปฏิเสธคำขอนี้เพราะเขาเป็นพยานหลักในหลาย ๆ กรณีของการฉ้อโกงและการหลีกเลี่ยงภาษี ข้อมูลที่ได้จาก Falciani ทำให้ทางการสเปนค้นพบเงินประมาณ 2 พันล้านยูโรที่ฝากไว้ในบัญชีสวิสโดย “ครอบครัวเอมิลิโอโบติน” ประธานธนาคารซานทานแดร์ Santander Bank ซึ่งต้องจ่ายค่าปรับ 200 ล้านยูโร
เรื่องอื้อฉาวของการฉ้อโกงทางการเงินของพรรค Popular ของ Mariano Rajoy ก็ถูกนำมาเปิดเผย เจ้าหน้าที่เบลเยี่ยมและฝรั่งเศสพบกับฟาลซีอานีและใช้ข้อมูลที่ได้รับเพื่อดำเนินการสืบสวนเรื่องการหลีกเลี่ยงภาษี ไม่แน่ว่าพวกเขาจะส่งผลให้มีการประณามและเปิดโปงขบวนการนี้หรือไม่ มันมีแนวโน้มว่าการถูกจำกัดเรื่องของศาลอาจจะทำให้ผู้ที่กระทำผิดหลุดออกจากเบ็ดก็เป็นไปได้สูง
และนี่คือเรื่องราวทั้งหมดของ ธนาคาร HSBC ของ “อังกฤษ” ที่เกิดมาจากน้ำนมแห่งฝิ่น ในสมัย “สงครามฝิ่นกับจีน” และยังหมกมุ่นกับการฟอกเงินจากการค้ายาเสพติด ก่อการร้าย และเลี่ยงภาษี มายาวนานจนถึงปัจจุบัน
Cr.Jeerachart Jongsomchai
http://www.cadtm.org/HSBC-the-bank-with-a-shameful-past
https://en.wikipedia.org/wiki/HSBC_Building_(Hong_Kong)
https://en.wikipedia.org/wiki/Queen%27s_Building